คอนโดมิเนียมริมเจ้าพระยามุ่งไฮเอนด์
จากการสำรวจของฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย พบว่าคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ช่วงถนนพระราม 3 ราษฎร์บูรณะ เจริญนคร เจริญกรุง จรัญสนิทวงศ์ และประชาราษฎร์สาย 2 มีคอนโดมิเนียมเปิดขายตั้งแต่ในอดีตมาทั้งหมดประมาณ 19,024 ยูนิต และในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา มีโครงการคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำเจ้าพระยาเปิดขายหลายโครงการ ทำให้มีโครงการที่จะสร้างเสร็จในช่วงปี 2559 และในอนาคตหลายโครงการ
ทั้งนี้ จำนวนคอนโดมิเนียมที่ สร้างเสร็จในแต่ละปีมีจำนวนไม่มากนัก เพราะมีโครงการเปิดขายใหม่ไม่มาก เนื่องจากที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เหลืออยู่มีไม่มากนัก คอนโดมิเนียมที่เปิด ขายในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาจึง มีอัตราการขายที่สูงมาก คือ ประมาณ 94% อาจจะเป็นโครงการเก่าๆ ที่ เปิดขายมาหลายปีแล้วปิดการขาย ได้ค่อนข้างมาก แต่ถ้าพิจารณาเฉพาะโครงการที่เปิดขายใหม่ในช่วงปี 2555 เป็นต้นมา พบว่ามีอัตราการ ขายประมาณ 80% ราคาขายเฉลี่ยก็ค่อนข้างแตกต่างกัน โดยสามารถแยกตามทำเลต่างๆ
พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยานอกจากจะมีเสน่ห์และสะท้อนถึงความเป็นกรุงเทพมหานครได้ชัดเจนแล้ว ยังเป็นทำเลที่ในอนาคตจะหาได้ยากมากขึ้นเพราะขาดแคลนที่ดิน อีกทั้งข้อจำกัดในการพัฒนาทั้งในเรื่องของกฎหมายและราคาที่ดินที่สูงขึ้น ซึ่งเริ่มเห็นได้ชัดตั้งแต่ช่วงปี 2558-2559 เป็นต้นมา เพราะโครงการคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำที่เปิดขายในช่วงนั้นมีราคาขายค่อนข้างสูงในทุกทำเล หลายโครงการเปิด ขายที่มากกว่า 2 แสนบาท/ตร.ม. หรือขึ้นไปเกินกว่า 3 แสนบาท/ตร.ม. แต่ก็ได้รับความสนใจค่อนข้างมาก และราคาขายต้องปรับเพิ่มขึ้นไปมากกว่านี้แน่นอนในอนาคต เพราะที่ดินมีน้อย ราคาที่ดินที่สูงขึ้น ศักยภาพของพื้นที่มากขึ้น
ทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็น ที่จับตามองของผู้ประกอบการและ คนที่สนใจทั่วไป น่าจะเป็นพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยู่ในรัศมีประมาณ 2 กิโลเมตรรอบๆ สถานีรถไฟฟ้าสะพานตากสิน โดยเฉพาะพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถ ไฟฟ้าสายสีทอง ซึ่งแม้จะเป็นรถไฟฟ้าขนาดเล็กและระยะทางสั้น แต่ก็ช่วยเพิ่มศักยภาพของพื้นที่ตามแนวเส้น ทางมีมากขึ้นแน่นอน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยหลายอย่างที่น่าสนใจ ทั้งศูนย์ การค้าขนาดใหญ่ รวมไปถึงหอชมวิวกรุงเทพมหานคร ความสูง 459 เมตร ที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติแล้ว
ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์