แห่ผุดคอนโดฯหรูลงตลาดซื้อตึกเก่ารีโนเวตหนีที่ดินแพง
"ซีบีอาร์อี" ชี้โอกาสอสังหาฯท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว คอนโดฯ ไฮเอนด์ยังมาแรง ผู้ประกอบการการหน้าใหม่หันบุกตลาดหนีปัญหารีเจกต์ตลาดกลาง-ล่าง แนะทำเลต้องดี ออกแบบโดนใจกลุ่มเป้าหมาย ขณะที่ปัญหาที่ดินราคาแพงกดดันผู้ประกอบการซื้อตึกเก่าทุบทิ้งสร้างใหม่รีโนเวต
นางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) จำกัด หรือซีบีอาร์อี เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2560 โดยคาดว่าจะมีแนวโน้มไม่แตกต่างจากปี 2559 ที่ผ่านมา ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประมาณการว่าเศรษฐกิจไทยปี 60 จะมีการขยายตัวที่ 3.2% ส่งผลให้ตลาดอสังหาฯในปี 60-61 ยังมีอัตราการเติบโตแต่ในอัตราการขายที่ช้าลง ซึ่งจะส่งผลให้กลุ่มซื้อเพื่อเก็งกำไรลดลง เพราะขาย ต่อยาก เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคปรับขึ้นไม่ทันกับราคาขาย ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปรับเข้าสู่สมดุลและเป็นตลาดซื้อเพื่อการอยู่อาศัยจริงเป็นหลัก
จากแนวโน้มตลาดอสังหาฯที่อยู่ในภาวะเติบโตช้าลง ส่งผลให้อัตราการขายชะลอตัวตาม และอัตราการถูกปฏิเสธสินเชื่อสูงขึ้นทำให้มีจำนวนซัปพลายกลับเข้ามาขายใหม่ ทำให้ผู้ประกอบการมีความระมัดระวังในการลงทุน โดยการเปิดตัวโครงการคอนโดฯ ใหม่ย่านใจกลางเมืองปี 60 คาดจะทรงตัวเท่ากับปี 2559 ที่มีจำนวน 8,000 ยูนิต อย่างไรก็ตาม ยังขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจซึ่งจะส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนของผู้ประกอบการด้วย
อย่างไรก็ดี กำลังซื้อถือเป็นปัจจัยสำคัญการเติบโตของตลาดอสังหาฯ ดังนั้น เชื่อว่าตลาดคอนโดฯ ระดับบนราคา 2.5 แสนบาทต่อตร.ม.ขึ้นไป ยังจะขยายตัวต่อเนื่อง แต่ผู้ซื้อจะมีความพิถีพิถันการซื้อมากขึ้น แต่ใช่ว่าทุกโครงการจะประสบความสำเร็จ ผู้ประกอบการต้องเลือกทำเลที่ดี และออกแบบสินค้าให้โดนใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจึงจะขายได้
ในส่วนของราคาที่ดินในทำเลย่านใจกลางเมือง (ซีบีดี) ของกรุงเทพฯ ยังคงเพิ่มสูงขึ้น และเชื่อว่าจะมีการทุบสถิติราคาขายที่ดินสูงสุดในแต่ละทำเลเกิดขึ้น โดยมีปัจจัยจากความต้องการในที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคที่มีอย่างต่อเนื่อง และจากปัญหาที่ดินมีราคาแพง โดยเฉพาะในเขตในกลางเมือง กดดันให้ผู้ประกอบการหันไปซื้ออาคารเก่ามาปรับปรุงใหม่ (รีโนเวต) เป็นโรงแรม อาคารสำนักงาน หรือคอนโดฯ เพราะมีต้นทุนที่ถูกกว่า ขณะที่บางรายซื้อตึกเก่าทุบทิ้งแล้วสร้างใหม่เนื่องจากที่ดินในทำเลดีกลางเมืองหายาก
ขณะที่ราคาขายคอนโดฯ ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน ทั้งนี้จากการสำรวจพบว่า คอนโดมิเนียมระดับ ไฮเอนด์ ในกรุงเทพฯมีราคาขายเฉลี่ยที่ 2.47 แสนบาท/ตร.ม. ปรับขึ้น 10.9% ต่อปี จากแนวโน้มราคาคอนโดฯใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาก ทำให้ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจคอนโดฯมือสอง เนื่องจากมีราคาถูกกว่าเฉลี่ยที่ 1.98 แสนบาท/ตร.ม. แต่จะต้องเป็นคอนโดฯที่มีอายุไม่เกิน 5-10 ปี ทั้งนี้คาดว่าในช่วงปี 60-62 คาดว่าราคาคอนโดฯ จะปรับขึ้นเฉลี่ย 8% ต่อปี
ขณะที่คอนโดฯที่ผู้ประกอบการเสนอขายก่อนที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จที่มีราคาสูงกว่า 3 แสนบาทต่อตร.ม. ในปัจจุบันมีโครงการที่เปิดขายอยู่ประมาณ 17 โครงการ เพิ่มขึ้นจากช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาที่มีอยู่เพียง 2-3 โครงการเท่านั้น ในส่วนของตลาดบ้านระดับลักชัวรี ยังไม่มีการพัฒนาออกมามากนักเนื่องจากที่ดินราคาแพง แต่จะเป็นการพัฒนาในเขตรอบนอกเมืองรอบนอกใจกลางเมือง
ส่วนการขยายตลาดไปยังกลุ่มผู้ซื้อชาวต่างชาติไปยังต่างประเทศนั้น ยังเป็นโอกาสของผู้ประกอบการ โดยคอนโดมิเนียม ที่มีราคาขายต่ำกว่า 10 ล้านบาทต่อยูนิตยังได้รับความนิยมจากผู้ซื้อต่างชาติ ซึ่งประเทศไทยยังได้รับประโยชน์เพิ่มเติมจาก การที่ไม่มีการคิดภาษีอากรแสตมป์กับชาว ต่างชาติ ต่างจากประเทศ สิงคโปร์ และ ฮ่องกง ทำให้ตลาดการลงทุนในประเทศ ไทยยังได้รับความน่าสนใจจากชาวต่างชาติ
ในส่วนของตลาดอาคารสำนักงาน คาดว่าการใช้พื้นที่สำนักงานในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 200,000 ตร.ม.เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่ผ่านมา สำหรับในปีนี้จะมีอาคารสำนักงานสร้างเสร็จจำนวน 7 โครงการ พื้นที่รวมสำหรับปล่อยเช่ารวม 195,000 ตร.ม. และพบว่าอัตราการว่างลดลงคาดว่าจะอยู่ที่เฉลี่ย 5% ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า
ที่มา : ผู้จัดการรายวัน 360 องศา