JSP เดินเกมรุก ตั้งธงเปิดโครงการใหม่ปีนี้ 17 โครงการ หวังโกยรายได้เข้ามือ 5 พันล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อน พร้อมเร่งปรับภาพลักษณ์แบรนด์ หวังดึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ที่มีความต้องการซื้อสูง เผยอยู่ระหว่างพิจารณาการซื้อที่ดินย่านภาคตะวันออก 2-3 แปลง คาดจะได้ข้อสรุปภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้

นายไพโรจน์ วัฒนวโรดม กรรมการผู้จัดการบริษัท เจ.เอส.พี.แอสพลัส จำกัด และรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจ.เอส.พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JSP เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา บริษัทสามารถทำยอดขายจาก 4 โครงการใหม่ ได้ถึง 346 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นจากโครงการเจ คอนโดพระราม 2 จำนวน 102 ล้านบาท และจากโครงการ เจ วิลล่า แพรกษา จำนวน 104 ล้านบาท เช่นเดียวกับโครงการ เจ วิลล่า บางปะกง ที่สามารถทำรายได้จำนวน 60 ล้านบาท และโครงการ เจ วิลล่า รังสิตคลอง 1 ที่สามารถทำยอดขายได้ถึง 80 ล้านบาทใน 2 วัน เช่นเดียวกัน

ผุดโครงการใหม่โกยรายได้โต 20%

ทั้งนี้จากในปี 2559 ที่ผ่านมา บริษัทมีสัดส่วนรายได้เฉลี่ยประมาณการ จากโครงการแนวราบที่เปิดเพิ่มอยู่ที่ 40% ขณะเดียวกัน บริษัทวางเป้ายอดขายและรายได้ปี 2560 เติบโตไม่ต่ำกว่า 20%โดยตั้งเป้ารายได้ที่ 5,000 ล้านบาท"จากการทำยอดขายได้อย่างก้าวกระโดดในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ของปลายปี 2559 ที่ผ่านมาประกอบกับยอดขายโครงการในแคมเปญแรกต้นปีนี้ ที่มีลูกค้านักลงทุนชาวไต้หวันเหมาซื้อโครงการไมอามี่คอนโดบางปู ไป 2 ตึก รวมยอดขายโครงการไมอามี่เฉพาะในเดือนมกราคม 2560 เดือนเดียว 178 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า  165.70 ล้านบาท และมีแนวโน้มยอดจองเพิ่มอีก 2 ตึก จึงทำให้ค่อนข้างมั่นใจว่าในปี 2560 บริษัทจะสามารถเติบโตได้อย่างมาก ต่อเนื่องจากปี 2559" นายไพโรจน์กล่าว

นายไพโรจน์กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันบริษัทได้ทำการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง และเป็นการขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น โดยเน้น กลุ่มลูกค้าแบบแมส (Mass) กลุ่ม GenX และ GenY ซึ่งยังจัดเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีความต้องการซื้อสูงอยู่ในปัจจุบัน และในปีนี้บริษัทยังเตรียมเดินหน้าเต็มกำลัง เพื่อเปิดโครงการเพิ่มอีก 17 โครงการ โดยในช่วงไตรมาส 1/60 กลุ่ม J Series จะเริ่มเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 7 โครงการ ได้แก่ โครงการ เจ คอนโด พระราม 2, เจ แกรนด์ สาทร-กัลปพฤกษ์, เจ ซิตี้ ติวานนท์-บางกะดี, เจ ซิตี้ รัตนาธิเบศร์-บางบัวทอง, เจ วิลล่า สุขุมวิท-แพรกษา, เจ วิลล่า รังสิต คลอง 1,  เจ วิลล่า บางปะกง- บ้านโพธิ์ เป็นต้น โดยคาดว่าสิ้นปี 2560 บริษัทจะสามารถทำรายได้แตะ 5,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

เล็งซื้อที่ดินใหม่เข้าพอร์ต

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีความพร้อม 100% ในการรุกขยายธุรกิจ เนื่องจากแนวโน้มภาพรวมธุรกิจในช่วงต้นปีค่อนข้างหวือหวาและขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีข้อได้เปรียบในเรื่องของราคา คุณภาพสินค้า คุณภาพด้านงานก่อสร้างที่ได้มาตรฐานเทียบเท่ากับค่ายใหญ่รายอื่นๆ พร้อมความได้เปรียบด้านทำเล และที่ตั้งโครงการ อีกทั้งล่าสุดบริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาการซื้อที่ดินย่านภาคตะวันออก 2-3 แปลง ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้

นอกจากนี้บริษัท ยังได้รับความเชื่อมั่นจากธนาคารชั้นนำต่างๆ กว่า 10 ธนาคารที่ร่วมเป็นพันธมิตร และยกระดับการให้วงเงินสินเชื่อและอัตราดอกเบี้ยในแบบพิเศษ จึงทำให้โอกาสการกู้ผ่านของลูกค้าง่ายขึ้นด้วย อย่างไรก็ดี บริษัทเชื่อมั่นว่าภาพรวมเศรษฐกิจในปีนี้จะดีขึ้น และกำลังซื้อ ความต้องการที่อยู่อาศัยก็คาดว่าน่าจะกลับมาฟื้นตัว จึงถือเป็นจังหวะที่เหมาะสมต่อการสร้างโอกาสทางการค้า การลงทุนเพิ่มเติม พร้อมก้าวไปสู่ความเป็นองค์กรยุคใหม่ที่ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนในอนาคต

ที่มา : หนังสือพิมพ์ทันหุ้น