GRANDจ่อเปิด"ไฮแอทฯ"หนุนรายได้เฉียด2พันล้านลุ้นไตรมาส3ตั้งกองREIT
Loading

GRANDจ่อเปิด"ไฮแอทฯ"หนุนรายได้เฉียด2พันล้านลุ้นไตรมาส3ตั้งกองREIT

วันที่ : 22 กุมภาพันธ์ 2560
GRANDจ่อเปิด"ไฮแอทฯ"หนุนรายได้เฉียด2พันล้านลุ้นไตรมาส3ตั้งกองREIT

หนุนรายได้เฉียด2พันล้าน

 

ลุ้นไตรมาส3ตั้งกองREIT

 

GRAND เตรียมเปิด โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯหนุนรายได้ปี 61 เกือบ 2,000 ล้านบาท เล็งผุดโครงการมิกซ์ยูส ในระยอง มูลค่า 4,700 ล้านบาท พร้อมยันอยู่ระหว่างขอจัดตั้งกอง REIT คาดเสร็จสิ้นในไตรมาส 3/60

 

นายไพสิฐ แก่นจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAND เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ารายได้ปี 2561 จะเติบโตที่ระดับเกือบ 2,000 ล้านบาท เนื่องจากจะมีรายได้จากโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ ที่จะเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปี 2560 เข้ามาหนุน

 

สำหรับในปี 2560 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตขึ้นจากปี 2559 ที่มีรายได้รวม 1,453.85 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีโครงสร้างรายได้มาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประมาณ 60% และธุรกิจโรงแรมประมาณ 40% โดยในปี 2560 จะมีรายได้จากธุรกิจโรงแรมประมาณ 1,400 ล้านบาท และจะมีการรับรู้รายได้จากยอดขายรอโอน (Backlog)

 

โดยในปี 2560 บริษัทจะการโอนกรรมสิทธิ์โครงการ เดอะไฮด์ สุขุมวิท 11 มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท ในไตรมาส 4/60 ซึ่งมี Backlog แล้วจำนวน 2,100 ล้านบาท ทั้งนี้ ในปีนี้บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการใหม่อย่างน้อย 1 โครงการ เป็นโครงการแบบมิกซ์ยูส บริเวณหาดแม่พิมพ์ จังหวัดระยอง พื้นที่ 90 ไร่ มูลค่าโครงการ 4,700 ล้านบาท ที่จะพัฒนาเป็นโรงแรมเพื่อเช่า จำนวน 200 ห้อง และวิลล่าเพื่อเช่า จำนวน 10 ห้อง ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างเป็นเฟส

 

อีกทั้งภายในโครงการดังกล่าวจะพัฒนาเป็นวิลล่าเพื่อขาย จำนวน 40 ยูนิต ราคาขายจะอยู่ที่ประมาณ 35-100 ล้านบาทต่อยูนิต โดยจะเปิดขายในช่วงปลายปี 2560 คาดจะสามารถรับรู้รายได้ในปี 2561-2562 อย่างไรก็ตาม ในปี 2560 บริษัทจะเน้นพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียมในเขต CBD และวิลล่า เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจาซื้อที่ดินในทำเลสุขุมวิท จำนวน 2-3 แปลง เพื่อจะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียม แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป

 

ทั้งนี้ ในช่วง 2 ปีจากนี้ (ปี 2560-2561) บริษัทได้ตั้งงบลงทุนไว้ที่ 2,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการพัฒนาโครงการ โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากการออกหุ้นกู้ ซึ่งในปีนี้มีแผนออกหุ้นกู้ระยะยาว 5 ปี โดยมีวงเงินที่ขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นแล้ว จำนวน 4,000 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยออก เพื่อนำมาสนับสนุนการพัฒนาโครงการในอนาคต

 

นอกจากนี้ ในปี 2560 บริษัทมีแผนจะจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการขออนุมัติจัดตั้งกอง REIT จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) คาดกระบวนการจะเสร็จสิ้นในช่วงไตรมาส 3/60

 

นายไพสิฐ กล่าวอีกว่า บริษัทจะนำโรงแรมเชอราตัน หัวหิน จำนวน 240 ห้อง มีมูลค่าทางบัญชี (book value) กว่า 1,000 ล้านบาท จำหน่ายเป็นสินทรัพย์ในกอง REIT ดังกล่าว ซึ่งในปี 2559 มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย (OCC) ประมาณ 65-68% และในอนาคตจะพยายามทยอยนำโรงแรมที่มีในมือขายเป็นสินทรัพย์ในกอง REIT เพื่อระดมทุนขยายธุรกิจ

 

 แนวโน้มยอดนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในประเทศไทยในปี 2560 จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 35 ล้านคน จากปีก่อนที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย 32.60 ล้านคน ซึ่งถือเป็น 1 ในประเทศ Top 10 ที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศมากที่สุดในโลก และยังมีอัตราการเติบโตของการพักที่ดี เห็นได้จากตัวเลขรายได้ในธุรกิจโรงแรมของเราในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตที่ประมาณ 10% จากช่วงปลายปีก่อนนายไพสิฐ กล่าว

ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น