เปิดคอนโดไฮเอนด์ โชว์นวัตกรรมผสานดีไซน์ระดับโลก
Loading

เปิดคอนโดไฮเอนด์ โชว์นวัตกรรมผสานดีไซน์ระดับโลก

วันที่ : 22 กุมภาพันธ์ 2560
เปิดคอนโดไฮเอนด์ โชว์นวัตกรรมผสานดีไซน์ระดับโลก

โชคชัย สีนิลแท้

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการแข่งขันในตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมนั้นทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการต้องหากลยุทธ์ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านนวัตกรรม การออกแบบ ความโดดเด่นของทำเลมาเป็นจุดขาย จับลูกค้าระดับไฮเอนด์ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่ไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบทางเศรษฐกิจ

 

อุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ กล่าวว่า ปัจจุบันนวัตกรรมในการอยู่อาศัยนั้นเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จะเห็นการพัฒนานวัตกรรมที่สร้างความสะดวกสบายให้กับลูกค้า อย่างเช่นโครงการ เดอะ ไลน์ พหลฯ-ประดิพัทธ์ และโครงการ เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 101 ที่บริษัทเริ่มทำแนวคิดโค-เวิร์กกิ้ง สเปซ มีการทำโค-ครีเอชั่นพื้นที่สันทนาการร่วมกันในโครงการ มีการทำโค-คิท หรือห้องครัวขนาดใหญ่ที่สามารถใช้ร่วมกันได้

 

ขณะเดียวกัน หน่วยงานทางด้านพร็อพเทคของบริษัทได้ร่วมมือกับธุรกิจสตาร์ทอัพเดินหน้าพัฒนาแอพพลิเคชั่นหลากหลายที่เกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์ในการอยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นใช้ในการจองพื้นที่โค-เวิร์กกิ้ง สเปซผ่านโทรศัพท์มือถือ จองพื้นที่เป็นรูปแบบเฟิสต์อิน เฟิสต์เสิร์ฟ เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับลูกค้า หรือระบบโฮม ออโตเมชั่นการเปิดปิดประตูต่างๆ เช่น สามารถสั่งเปิดเครื่องปรับอากาศล่วงหน้าก่อนที่จะเข้าไปในห้องพักโครงการได้เริ่มใช้กับโครงการคอนโดมิเนียมเดอะ เทอร์ทีไนน์ และโครงการไนน์ตี้เอท ไวร์เลส ซึ่งในอนาคตโครงการคอนโดมิเนียมระดับกลางจะนำมาใช้ด้วยเช่นกัน ซึ่งบริษัทมีสตาร์ทอัพที่จะเปิดตัวนวัตกรรมที่จะนำมาใช้ในอนาคตอันใกล้นี้และมีราคาที่ย่อมเยามากขึ้น

 

"ปัจจุบันแสนสิริมีหน่วยงานที่พัฒนาทางด้านพร็อพเทคที่เพิ่งเปิดตัวไป แอพพลิเคชั่นทั้งหลายที่เห็นทั้งหมดในตอนแรกจะต้องใช้นิ้วมือสัมผัส แต่ต่อไปจะพัฒนาให้สามารถใช้เสียงในการใช้คำสั่ง เช่น ให้สามารถเปิดไฟที่อุณหภูมิที่กำหนดได้ก่อนจะถึงที่อยู่อาศัย 10 นาที เป็นต้น เสมือนการใช้แมชชีนเลิร์นนิ่งในโปรแกรมสิริ ที่ใช้ในโทรศัพท์ไอโฟนจะมีการเก็บข้อมูล ซึ่งแอพพลิเคชั่นเหล่านี้จะถูกพัฒนาให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ" อุทัย กล่าว

 

นอกจากนี้ ยังได้มีการร่วมมือกับบริษัทนักออกแบบ ชื่อดังระดับโลก ร่วมกันเพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมที่ดีไซน์และแนวคิดของสถาปนิกเหล่านั้น เริ่มจากโครงการคอนโดมิเนียมคุณ บาย ยู อินสไปร์ บาย สตาร์ค (KHUN by YOO inspired by Starck) มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท บนทำเลทองหล่อ เป็นโครงการแรกที่แสนสิริได้จับมือกับ ยู ดีไซน์ สตูดิโอ (YOO Design Studio) บริษัทดีไซน์ระดับโลก ที่มีทีมงานชื่อดังอย่าง ฟิลิปป์ สตาร์ค นักออกแบบอัจฉริยะชื่อดังของโลก เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่มีเอกลักษณ์และคุณภาพมาตรฐานระดับโลก ภายใต้แนวคิดการออกแบบที่สะท้อนบุคลิกอันเด่นชัดของพื้นที่ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการใช้ชีวิตและสีสันไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ครบวงจรและสมบูรณ์แบบของกรุงเทพฯ

 

จอห์น ฮิทชค็อกซ์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าที่บริหาร ยู ดีไซน์ สตูดิโอ เล่าถึงแนวทางการออกแบบโครงการคุณ บาย ยูนั้น ต้องการสร้างสรรค์ โครงการอสังหาฯ ที่ไม่เหมือนใคร สำหรับลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชอบงานออกแบบที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นและชื่นชอบไลฟ์สไตล์ที่วูบไหวในย่านทองหล่อ โดยโครงการออกแบบภายใต้แนวคิดอินดัสเทรียล เฮอร์ริเทจ สะท้อนความทันสมัยของย่านทองหล่อ ทำเลที่พักอาศัยใจกลางเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานของกรุงเทพฯ ผสานความหรูหราที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ด้วยเส้นสายที่สร้างลวดลายสมมาตรทำให้เกิดจังหวะที่ต่อเนื่อง การเลือกใช้วัสดุที่ผสมผสานระหว่างความหรูหราอย่างหินอ่อน ความแปลกใหม่อย่างปูนเปลือย ทองแดง หินขัด การออกแบบภายในมีการเล่นสีสันที่ตัดกันและใช้เฟอร์นิเจอร์รวมถึงอุปกรณ์ตกแต่งที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ โดยให้ความสำคัญกับฟังก์ชั่นการใช้สอยอย่างครบถ้วน

 

โครงการคุณ บาย ยู ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1 ไร่ ทองหล่อ 12 เป็นคอนโดมิเนียมสูง 27 ชั้น จำนวน 148 ยูนิต ประกอบด้วยขนาด 1 ห้องนอน 2 ห้องนอน 3 ห้องนอน และเพนต์เฮาส์ พื้นที่ตั้งแต่ 41.50-302.75 ตารางเมตร มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 15 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในเดือน ก.ค. 2563 ปัจจุบันโครงการมียอดขายกว่า 65%

 

นอกจากจะใช้การออกแบบจากบริษัทออกแบบระดับโลกอย่าง ยู ดีไซน์ สตูดิโอ ในการออกแบบโครงการคุณ บาย ยูแล้ว บริษัทยังได้ร่วมมือกับ ราฟ ลอเรน เฟอร์นิเจอร์มาใช้ตกแต่งภายในโครงการไนน์ตี้เอท ไวร์เลส ที่จะเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมที่เป็นแฟล็กชิปคอนโดมิเนียม ตั้งอยู่บนถนนวิทยุ รวมมูลค่ากว่า 8,700 ล้านบาท จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือน มี.ค.นี้ พร้อมกันนี้บริษัทจะพยายามหาแบรนด์ระดับโลกมาใช้งานโดยเฉพาะไฮเอนด์ในระดับเวิลด์คลาส หรือการที่ส่งทีมงานไปหาวัสดุโดยเฉพาะหินจากอิตาลีมาใช้ ลายเป็นอย่างไร มีการนำมาต่อลาย ดูทั้งวิธีการติดตั้งและต่อลวดลายให้ลงล็อก

 

นี่คือหนึ่งในการปรับตัวของผู้ประกอบการที่พยายามสร้างแรงจูงใจใหม่ๆ ให้ลูกค้าในการ กระตุ้นการตัดสินใจซื้อ ซึ่งไม่ได้จำกัดเฉพาะลูกค้าคนไทยแต่เพียงอย่างเดียว แต่รวมไปถึงลูกค้าที่มาจากหลายประเทศทั่วโลกด้วย

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์