เตือนอสังหาฯแห่ทำตลาดบน ซัพพลาย ล้น
3 สมาคมอสังหาฯฟันธงตลาดบ้านปีนี้ทรงตัว เหตุหนี้ครัวเรือน-สถาบันการเงินปฎิเสธ สินเชื่อรุมเร้าต่อข้ามปี เตือนแห่ทำตลาดบนหนีตลาดล่าง อาจเจอโอเวอร์ซัพพลาย แนะ อัดแคมเปญกระตุ้นกำลังซื้อ หลังคลังส่งสัญญาณไม่มีมาตรการ
วานนี้ (23 ก.พ.) 3 สมาคมมอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และสมาคมอาคารชุดไทย จัดงานสัมมนาใหญ่ประจำปีภายใต้หัวข้อ "อสังหาริมทรัพย์ ดัชนีหลักชี้เศรษฐกิจปี 2017" ซึ่งประกอบด้วยหลายเวทีอภิปราย
ในการอภิปรายเรื่อง "ทิศทางการตลาดของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี2560" นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาฯปีนี้ คาดว่าจะเติบโตแบบกึ่งทรงตัว จากความไม่เชื่อมั่นของผู้บริโภคและผู้ประกอบการ จากภาวะเศรษฐกิจ และการเมือง
อย่างไรก็ดี อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนกำลังซื้ออยู่บ้าง แต่ยังมีปัจจัยลบ คือ ยอดอัตราการปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงินที่ยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องมาจากปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ การขาดแคลนแรงงานในบางประเภทในภาคอสังหาฯ จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเมื่อรัฐเดินหน้าลงทุนโครงการขนาดใหญ่มูลค่าหลายแสนล้านบาทในปีนี้
"เป็นปีที่ต้องถักตาข่ายถี่ๆจับลูกค้าให้ได้ เพราะความไม่มั่นใจ ทำให้ ผู้บริโภคระมัดระวังการซื้อ แม้จะมีเงินจะต้องลุยเรื่องแคมเปญโปรโมชั่น ไม่ต้องหวังรัฐออกมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐในปีนี้คงไม่มี"
หวั่นซัพพลายตลาดบนล้น
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯและปริมณฑลบางประเภทอสังหาฯยังเติบโตดี โดยโครงการแนวราบในปีนี้มองว่าทาวน์เฮ้าส์จะพระเอกของตลาดอสังหาริมทรัพย์ มีอัตราการเติบโตอย่างน้อย 10% เนื่องจากการเปรียบเทียบราคาต่อตารางเมตรแล้ว จะมีราคาต่ำกว่า คอนโดมิเนียม โดยเฉพาะในทำเลรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงรังสิต-ลำลูกกา ทำเลตลาดใหม่ -ดอนเมือง ช่วงปลายถนนเพชรเกษมในโซนกรุงเทพตอนใต้ ส่วนตลาดบ้านเดี่ยวยังทรงตัว
นายอธิป กล่าวเสริมว่า ปีนี้มีผู้ประกอบการหลายราย เริ่มหันไปทำตลาดบนมากขึ้น เพื่อหนี ตลาดล่างที่เผชิญกับปัญหาหนี้ ครัวเรือนสูงและถูกปฏิเสธสินเชื่อ แต่ตลาดบนเป็นตลาดผู้ซื้อมีจำนวนจำกัด อาจส่งผลให้มีปริมาณโครงการล้น
ขณะเดียวกัน เริ่มเห็น ผู้ประกอบการหันมาใช้เอเยนซีช่วยขายมากขึ้น จากเดิมที่จะขายโครงการเองมาโดยตลอด อาจจะ สะท้อนได้ว่า ผู้ประกอบการรายใหญ่บางรายไม่สามารถสร้างยอดขายเองได้ เพราะฉะนั้นควรระมัดระวังไม่ให้มีซัพพลายมากเกินไป เพราะความต้องการในกลุ่มดังกล่าวมีจำนวนจำกัด
อสังหาฯภูธร"ตะวันออก"ดีสุด
ส่วนตลาดอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัดมองว่า โซนภาคตะวันออก จะเติบโตดีสุด จากปัจจัยการเติบโตในเขตเศรษฐกิจพิเศษและการท่องเที่ยว รองลงมาเป็นภาคใต้ เนื่องจากราคายางพาราปรับตัวดีขึ้น ส่วนในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงทรงตัวถึงติดลบ เนื่องจากกำลังซื้อของ ผู้บริโภคและราคาพืชผลทางเกษตรยังปรับขึ้นไม่มากนัก
"มาตรกรอสังหาฯยังไม่จำเป็นในขณะนี้ แต่ต้องการให้รัฐบาลเร่งการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานให้ตรงเวลา โดยในช่วงครึ่งปีแรกนี้ยังไม่มีความคืบหน้าและยังไม่เห็นผลชัดเจน เนื่องจากโครงการส่วนใหญ่อยู่ในช่วงครึ่งปีหลัง ดังนั้นจึงมองว่าหากรัฐบาลเร่งรัดการก่อสร้างให้เป็นไปตามแผน ตรงเวลา ซึ่งจะทำให้เอกชนสามารถวางแผนการลงทุนได้ถูก
นายกฯคอนโดเชื่อตลาดปีนี้ยังโต
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า การเติบโตของภาคอสังหาฯ เป็นธุรกิจที่ใช้วัสดุที่ผลิตภายในประเทศที่จะทำให้เกิดการจ้างงานภายในประเทศและเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอื่นๆ ทำให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจ และมั่นใจว่าตลาดอสังหาฯจะเติบโตประมาณ 5% ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจปี 2560 เติบโตได้อย่างน้อย 3.5% สอดคล้องกับทิศทางภาครัฐ
ความเชื่อมั่นตัวแปรฉุดอสังหาฯ
นายสุรเชษฐ กองชีพ รอง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังเป็นตัวแปรสำคัญที่จะซื้ออสังหาฯ
ดังนั้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการรายใหญ่จึงหันไปจับตลาดผู้ซื้อชาวต่างชาติ แต่ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จทุกราย เพราะนักลงทุนต้องการซื้อเพื่อการลงทุน และผลตอบแทนดี แต่เมื่อถึงวันโอน หากผู้ประกอบการไม่ทำตามสัญญาที่ตกลงไว้ตั้งแต่แรกลูกค้าต่างชาติก็พร้อมที่จะทิ้งโอนกรรมสิทธิ์
"แม้ว่าอสังหาฯจะชะลอตัว พบว่าผู้ประกอบการทุกรายรับการเปลี่ยนแปลงได้ โดยเฉพาะรายใหญ่ ที่บางรายหันไปพัฒนาในเซกเมนต์ที่สูงมากขึ้น ส่วนรายเล็กนั้นยังน่าเป็นห่วง ด้านผู้ซื้อแนะนำว่าผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยเพื่ออยู่เองหรือเพื่อการลงทุนควรหาข้อมูลด้วยการไปดูโครงการจริงด้วยตนเอง ไม่ควรดูจากเว็บไซต์ และจึงค่อยตัดสินใจซื้อ อย่าไปหลงเชื่อกระแสซื้อตามกันมากจนเกินไปนัก" นายสุรเชษฐ กล่าว
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ