อธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจ บ้านจัดสรร กล่าวถึงภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ว่า ขณะนี้ภาคอสังหาริมทรัพย์ยังไม่ต้องการมาตรการกระตุ้นจากรัฐ แต่ต้องการให้รัฐบาลเร่งการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานให้ตรงเวลา โดยในช่วงครึ่งปีแรกนี้ยังไม่มีความคืบหน้าและยังไม่เห็นผลชัดเจน เนื่องจากโครงการส่วนใหญ่อยู่ในช่วงครึ่งปีหลัง ดังนั้นจึงมองว่าหากรัฐบาลเร่งรัดการก่อสร้างให้เป็นไปตามแผน ตรงเวลา ซึ่งจะทำให้เอกชนสามารถวางแผนการลงทุนได้ถูก

ทั้งนี้ คาดว่าตลาดอสังหาฯ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลยังเติบโตได้ดี โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่ยังมีสัดส่วนมากที่สุดในตลาด ส่วนโครงการแนวราบในปีนี้มองว่าทาวน์เฮาส์จะเป็นพระเอกของตลาดอสังหาฯ มีอัตราการเติบโตอย่างน้อย 10% เนื่องจากการเปรียบเทียบราคาต่อตารางเมตรแล้ว จะมีราคาต่ำกว่าคอนโดมิเนียม โดยเฉพาะในทำเลรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงรังสิต-ลำลูกกา ทำเลตลาดใหม่-ดอนเมือง และช่วงปลายถนนเพชรเกษมในโซนกรุงเทพตอนใต้

สำหรับตลาดบ้านเดี่ยวยังทรงตัว ส่วนตลาดอสังหาฯ ในต่างจังหวัดมองว่า โซนภาคตะวันออกจะเติบโตดีสุดจากระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกและการท่องเที่ยว รองลงมาเป็น ภาคใต้ เนื่องจากราคายางพาราปรับตัวดีขึ้น ส่วนในภาคเหนือและภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ ยังคงทรงตัวถึงติดลบ เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคและราคาพืชผลทางเกษตรยังปรับขึ้นไม่มากนัก

นอกจากนี้ ที่ผ่านมามีผู้ประกอบการหลายรายหันไปจับตลาดระดับบนมากขึ้น เพื่อหนีตลาดล่างที่เผชิญกับปัญหาหนี้ครัวเรือนสูงและการถูกปฏิเสธสินเชื่อ และเริ่มเห็นผู้ประกอบการรายใหญ่ที่เปิดขายโครงการระดับบน เริ่มหันมาใช้เอเยนซีช่วยขายมากขึ้น จากเดิมที่จะขายโครงการเองมาโดยตลอด อาจจะสะท้อนได้ว่า ผู้ประกอบการรายใหญ่บางรายไม่สามารถสร้างยอดขายเองได้ เพราะฉะนั้นควรระมัดระวังไม่ให้มีซัพพลายมากเกินไป เพราะดีมานด์กลุ่มดังกล่าวมีจำนวนจำกัด

ขณะที่ ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า การเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์ เป็นธุรกิจที่ใช้วัสดุที่ผลิตภายในประเทศที่จะทำให้เกิดการจ้างงานภายในประเทศและเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอื่นๆ ทำให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจ และมั่นใจว่าตลาดอสังหาฯ จะเติบโตประมาณ 5% ซึ่งจะส่งผลให้จีดีพีปี 2560 เติบโตได้อย่างน้อย 3.5% สอดคล้องกับทิศทางภาครัฐ

"ปีนี้จะเป็นปีสำคัญที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมอสังหาฯ จะมีการปรับโครงสร้างธุรกิจ การร่วมทุน การพัฒนาที่อยู่อาศัยในเขตเมืองไปสู่ต่างจังหวัดและตามแนวชายแดนมากขึ้น โดยคาดว่าในปีนี้จะมีอัตราการเติบโตประมาณ 5%" ประเสริฐ กล่าว

สุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ตั้งแต่ปี 2546 พบว่า บ้านจัดสรรไม่ค่อยเติบโต เมื่อเทียบกับต่างจังหวัด เพราะที่ดินในกรุงเทพฯ หาได้ยากขึ้น ดังนั้นที่อยู่อาศัยจึงมีขนาดเล็กลง ขณะเดียวกันการขออนุญาตจดทะเบียนอาคารชุด มีอัตราเติบโตอย่างเห็นได้ชัด และมาชะลอในปี 2558-2559 ซึ่งปีนี้เชื่อว่าจะเริ่มฟื้น แต่ต่างจังหวัดหัวเมืองใหญ่ยังชะลอ

"เรื่องการเข้มงวดของสถาบันการเงินที่ส่งผลให้มียอดรีเจกต์เกิดขึ้น ผู้ประกอบการจึงอยากให้สถาบันการเงินช่วยผ่อนปรนเรื่องที่อยู่อาศัย ผู้ประกอบการรายใหญ่ยังเป็นผู้กำหนดทิศทางการตลาด และเทคโนโลยียังเป็นเครื่องมือใหม่มาช่วยในเรื่องการบริหารหลังการขาย" สุรเชษฐ กล่าว

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์