ตลาดธุรกิจรับสร้างบ้านมีแนวโน้มดีขึ้น 2 เดือนแรกเติบโต 10-15% หลังจากผู้บริโภคชะลอตัดสินใจสร้างบ้านปี 2559 เริ่มตัดสินใจปลูกบ้านในปีนี้

นายพิชิต อรุณพัลลภ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในช่วง 2 เดือนแรก (ม.ค.-ก.พ.) ของปี 2560 มีแนวโน้มที่ดีขึ้นคิดเป็นอัตราเติบโต 10-15% เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 4/2559 และพบว่ามีผู้บริโภคบางส่วนที่ชะลอการตัดสินใจที่จะปลูกสร้างบ้านในช่วงครึ่งหลังของปี 2559 ได้ตัดสินใจที่จะปลูกบ้าน ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมของตลาดรับสร้างในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2560 มีแนวโน้มดีขึ้น

ทั้งนี้ สอดคล้องกับข้อมูลที่สมาคมได้เก็บล่าสุดจากการจัดงานมหกรรมรับสร้างบ้าน โฮมบิวเดอร์ เอ็กซ์โป 2016 เมื่อวันที่ 18-21 ส.ค. 2559 พบว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ได้วางแผนจะออกแบบและก่อสร้างบ้านภายใน 6 เดือนมีสัดส่วน 11% และตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปคิดเป็นสัดส่วน 53.38% จากเดิมอยู่ที่สัดส่วน 50%

นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ที่มาเยี่ยมชมงานของสมาคมมาเพื่อศึกษาหาข้อมูล 41.96% เพื่อว่าจ้างบริษัทรับสร้างบ้านคิดเป็นสัดส่วน 21.89% ศึกษาข้อมูลและเทคโนโลยีหรือวัสดุก่อสร้างบ้าน 19.98% มาเพื่อต้องการหาผู้ออกแบบบ้าน 8.86% และส่วนอื่นๆ คิดเป็น 7.31% เป็นต้น ส่วนระดับราคาบ้านที่ลูกค้าต้องการจะอยู่ในกลุ่มบ้านราคา 2.5-5 ล้านบาทเป็นส่วนใหญ่มากถึง 40% ระดับราคา 5-10 ล้านบาท อยู่ที่ 30% ส่วนระดับราคาไม่เกิน 2.5 ล้านบาท อยู่ที่ 15% ถือว่าเป็นกลุ่มที่มีความต้องการสูงแต่แบบบ้านที่ออกแบบมารองรับนั้นมีปริมาณจำกัด

อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมแล้วระดับราคาที่ลูกค้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่นิยมสร้างจะอยู่ที่ราคา 5-6 ล้านบาท ขณะที่ตลาดต่างจังหวัดระดับราคาที่นิยมสร้างจะอยู่ที่ 10 ล้านบาท ซึ่งสัดส่วนลูกค้าต่างจังหวัดในปี 2558 อยู่ที่ 17% ปี 2559 สัดส่วนอยู่ที่ 25% และคาดว่าปี 2560 สัดส่วนลูกค้าต่างจังหวัดจะใกล้เคียงกับปี 2559 โดยวัดจากยอดขายจากการจัดงานโฮมบิวเดอร์ เอ็กซ์โป 2016 ที่มียอดขายในงาน 900 ล้านบาท

"ธุรกิจรับสร้างบ้านในต่างจังหวัดมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ต้องการปลูกสร้างบ้านขนาด 400 ตารางเมตรขึ้นไป ตลาดที่เติบโตอย่างเห็นได้ชัดอยู่ในจังหวัดหัวเมือง เช่น จ.พิษณุโลก อุดรธานี อุบลราชธานี หนองคาย และนครราชสีมา นอกจากนี้ยังพบว่าส่วนใหญ่ต้องการใช้บริษัทที่ดำเนินธุรกิจรับสร้างบ้านจากส่วนกลาง เนื่องจากมีความน่าเชื่อถือมากกว่าผู้รับเหมาก่อสร้างรายย่อยในท้องถิ่น" นายพิชิต กล่าว

สำหรับภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในปีนี้คาดว่าจะเติบโตใกล้เคียงกับปีก่อนหรือน่าจะเติบโตอยู่ที่ 5-10% จากปี 2559 ที่มีมูลค่าตลาดรวมในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลอยู่ที่ 1.02 หมื่นล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 23% เมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดรวมบ้านสร้างเองในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลในปี 2559 ที่มี 4.4 หมื่นล้านบาท

ด้าน นางศิริพร สิงหรัญ อุปนายกฝ่ายกิจกรรมพิเศษ สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวว่า สมาคมเตรียมจัดงานโฮมบิวเดอร์โฟกัส 2017 ระหว่างวันที่ 9-15 มี.ค. 2560 บริเวณชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว ภายใต้แนวคิดงานเดียวที่รวมบริษัทรับสร้างบ้านชั้นนำไว้มากที่สุดกว่า 20 บริษัทรับสร้างบ้านที่ร่วมออกบูธ ภายในงานยังมีการให้สินเชื่อพิเศษจากสถาบันการเงิน จองปลูกบ้านในงานยังได้รับส่วนลดสูงสุด 1 หมื่นบาท คาดว่าจะมียอดขาย 1,000 ล้านบาท

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์