นางสาว นราวดี วรวณิชชา รองกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ และในฐานะ กรรมการผู้จัดการโครงการศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น หรือที่เรียกว่า "KICE" กล่าวว่า การลงทุนเปิดศูนย์ KICE ในจังหวัดขอนแก่น เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตตามวิสัยทัศน์ก้าวแรกที่จะรองรับการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางครัวไทยของโลก เป็นตลาดอาหารโลก เป็นศูนย์รวมเทคโนโลยีของโลก ค้าขายบนพื้นดินและค้าขายบนอากาศ ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะรองรับการเป็นศูนย์กลางภายใน 5-10 ปี

"ศูนย์ประชุมฯ ที่ขอนแก่น ถือเป็นโครงการนำร่องที่จะตอบโจทย์วิสัยทัศน์ ซึ่ง KICE เป็นส่วนของ ซี.พี.กรุ๊ป ซึ่งเราจะเข้าไปบริหารให้ซี.พี.ด้วย และเรามีจุดแข็งเรื่องอาหาร ดังนั้น ตามวิสัยทัศน์ท่าประธาน มองว่า ไทย เป็นครัวโลก ถือว่าเราต้องเริ่มจากจุดเล็กๆ หากเราดูงานในประเทศจีนอย่าง The Conton Fair เป็นงานใหญ่ของจีน ที่สร้างรายได้เข้าประเทศมหาศาล หรือแม้แต่งาน Gulfood ดูไบ สามารถจัดงานเกี่ยวกับอาหารระดับโลกได้ ซึ่งสตอรี่ในงานของประเทศดังกล่าวเป็นแนวให้ KICE เดินไปตามเป้าให้ได้"

สำหรับโครงการศูนย์ KICE มีมูลค่าลงทุน 1,800 ล้านบาท ตั้งอยู่ บนพื้นที่รวมกว่า 26 ไร่ เป็นส่วนของศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าประมาณ 17 ไร่ มีพื้นที่ 43,500 ตารางเมตร(ตร.ม.) เป็นพื้นที่ให้บริการ 14,111 ตร.ม. คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จต.ค.และเปิดดำเนินการ ธ.ค. 60 โดยมีเบื้องต้น มีผู้แสดงความสนใจที่จัดงานเอ็กซ์โปประมาณ 20 ราย ซึ่งเป็นธุรกิจในไทย เช่น สินค้าในกลุ่มอุปโภคบริโภค อุตสาหกรรม และการเงิน เป็นต้น กลุ่มผู้เข้าชมงานจะเป็นคนในจังหวัดขอนแก่น 80% และอีก 20% จะเป็นจังหวัดใกล้เคียงที่มีระยะเวลาเดินทางมาสู่ขอนแก่นไม่เกิน 45 นาที ทั้งนี้ วางเป้าในช่วง 1-2 ปี อัตราการใช้พื้นที่แสดงสินค้าประมาณ 40% และขยับเพิ่มเป็น 65% ภายใน 5 ปี โดยประมาณการรายได้ในปีที่ 4 อยู่ที่ 180-200 ล้านบาท และสามารถคืนทุนในปีที่ 8 หลังเปิดดำเนินการ

ทั้งนี้ จ.ขอนแก่น เป็น 1 ใน 5 จังหวัดที่เป็น MICE ของประเทศไทย มีสถานศึกษาและที่ตั้งของธุรกิจสำคัญ รวมถึงยังสามารถเชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม CLMV ซึ่งที่ผ่านมา จ.ขอนแก่น ทางกลุ่ม ซี.พี.แลนด์ ได้เข้ามาลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ มีมูลค่าการทุน 3,000 ล้านบาท ทั้งโครงการคอนโดมิเนียม อาคารสำนักงานและล่าสุดเตรียมเปิดศูนย์ KICE

"เรามองโอกาสที่จะเพิ่มการลงทุน แต่ต้องดูความสำเร็จของ KICE ในขอนแก่นก่อน คาดว่าหลัง 3 ปีไปแล้วน่าจะเห็นความชัดเจน ซึ่งโครงการใหม่จะมีขนาดใกล้เคียงกับที่ขอนแก่น อาจจะเปิด 2-3 โรง โดยจังหวัดที่จะเอื้อต่อการลงทุนต้องพิจารณาเรื่องโครงการคมนาคม มีสนามบินรองรับ อาจมีท่าเรือ ซึ่งจะเห็นได้ว่า ท็อปไฟว์ของจีนที่ทำตลาดศูนย์ประชุม จะอยู่ในเซียงไฮ้ ปักกิ่ง เพราะกังวลรถติด"

ที่มา : ผู้จัดการรายวัน 360 องศา