เครดิตบูโรเปิดหนี้เสียพุ่ง1.14ล้านล.
Loading

เครดิตบูโรเปิดหนี้เสียพุ่ง1.14ล้านล.

วันที่ : 18 กรกฎาคม 2567
เครดิตบูโร เปิดเผยว่า ภาพรวมหนี้เสียในครึ่งปีแรกของปี 2567 ยังคงมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ดูจากข้อมูลรอบ 5 เดือนแรก หนี้เสียอยู่ที่ 1.14 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

  ฉุดยอดสินเชื่อ 'รถ-บ้าน' ติดลบ2%

  ห่วงเอ็นพีแอล 'อสังหาต่ำ3ล้าน' ปะทุ

  เครดิตบูโรเผยหนี้ครัวเรือน ดันหนี้เสีย 5 เดือน พุ่ง 1.14 ล้านล้าน 'รถยนต์บ้าน-บัตรเครดิต' มากสุด ยังไม่รวมหนี้ค้างชำระอีก 6.8 แสนล้าน คาดปี'67 ยอดสินเชื่อรถ-บ้านติดลบ 1-2% ห่วงหนี้เสียบ้านต่ำ 3 ล้านท่วมตลาด แนะผู้ประกอบการลดราคา ฝ่าวิกฤตกู้ไม่ผ่านพุ่ง 40-50%

  นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) เปิดเผยว่า ภาพรวมหนี้เสียในครึ่งปีแรกของปี 2567 ยังคงมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ดูจากข้อมูลรอบ 5 เดือนแรก หนี้เสียอยู่ที่ 1.14 ล้านล้านบาทเพิ่มขึ้น 11.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่วนใหญ่เป็นหนี้เสียจากสินเชื่อรถยนต์ อยู่ที่ 250,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.1% หนี้เสียสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ 218,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.4% และหนี้เสียสินเชื่อบัตรเครดิตอยู่ที่ 67,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.6% นอกจากนี้ยังมีหนี้ที่เริ่มค้างชำระ 1-3 เดือน อยู่ประมาณ 680,000 ล้านบาท คาดว่าเมื่อมีการปรับโครงสร้างหนี้มากขึ้นกว่าที่ผ่านมาจะทำให้หนี้เสียลดลง หลังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ธนาคารซึ่งเป็นเจ้าหนี้เข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้ รวมถึงเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อรายใหม่ สกัดหนี้เสียเพิ่ม มีผลให้หนี้ครัวเรือนลดลง และประเมินว่าเศรษฐกิจในครึ่งหลังนี้น่าจะดีกว่าครึ่งปีแรกจากการใช้จ่ายงบประมาณปี 2567-2568 นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาทำให้เกิดการใช้จ่าย จึงทำให้เศรษฐกิจดูดีขึ้น แต่ยังไม่รู้จะมีเหตุการณ์ทำให้ช็อกอีกหรือไม่

   นายสุรพลกล่าวว่า สำหรับหนี้เสียบ้านพบมากสุดราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท เพราะลูกค้าเป็นกลุ่มรายได้ปานกลางและรายได้น้อย โดยเฉพาะผู้มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อเดือน น่าเป็นห่วงมากสุด แต่หลังมีการคุมการปล่อยสินเชื่อใหม่ มีปรับโครงสร้างหนี้ผ่านธนาคารอาคารสงเคราะห์ โดยยืดเวลาผ่อนชำระได้ถึง 80-85 ปี มองว่าแนวโน้มหนี้เสียบ้านปีนี้น่าจะทรงตัว ส่วนหนี้รถยนต์ทั้งปีนี้จะเป็นเรื่องการเคลียร์หนี้เก่าอย่างเดียว เพราะธนาคารเข้มการปล่อยสินเชื่อใหม่ ดังนั้นคาดการณ์ภาพรวมการปล่อยสินเชื่อบ้านและรถยนต์ปีนี้จะไม่โตและติดลบ 1-2% ซึ่งการแก้ปัญหาหนี้เสีย ต้องกู้เท่าที่จำเป็นและกู้ให้พอดีกับที่จะจ่ายได้ อย่ากู้เกินตัว เมื่อธนาคารมีการคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อใหม่ คนเลยรู้สึกอึดอัด อย่างธุรกิจอสังหาฯเมื่อลูกค้ากู้แบงก์ไม่ผ่านสูง ก็ต้องลดราคาลงมาช่วยลูกค้า

  นายอลงกต บุญมาสุข เลขาธิการและประธานกรรมการบริหารสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย กล่าวว่า จากภาวะหนี้ครัวเรือนยังปรับตัวสูงกว่า 90% ของจีดีพี ทำให้ธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อใหม่ ส่งผลให้ตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยในครึ่งแรกของปี 2567 ยังขยายตัวได้น้อย จากกำลังซื้อในประเทศที่หดตัวมาก แม้ผู้ประกอบการอสังหาฯจะจัดโปรโมชั่นลดราคา แต่การกระตุ้นผู้บริโภคยังไม่กระเตื้องขึ้น เพราะหนี้ครัวเรือนและกำลังซื้อ ยังไม่ได้รับการแก้ไข โดยอัตราการถูกปฏิเสธสินเชื่อยังอยู่ระดับสูง 40-50% ส่วนใหญ่เป็นบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท