PF ยอมรับไตรมาสแรกยอดขายอืด
Loading

PF ยอมรับไตรมาสแรกยอดขายอืด

วันที่ : 18 มีนาคม 2560
PF ยอมรับไตรมาสแรกยอดขายอืด

PF ยอมรับยอดขายไตรมาสแรกปีนี้ยังชะลอตัว เหตุตลาดอสังหาฯ ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เชื่อครึ่งปีหลังคึกคัก

 

นายธีรธัชช์ สิงห์ณรงค์ธร ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มสนับสนุนบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) เปิดเผยว่า ภายรวมของธุรกิจในช่วงไตรมาสแรกของปี 2560 ยังคงชะลอตัวโดยเห็นได้จากยอดขายของบริษัท ยังถือว่าไม่เติบโตมากนัก เนื่องจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยัง ไม่ฟื้นตัวเต็มที่ อีกทั้งสถาบันการเงินยังเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่ออยู่

 

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนเปิดโครงการในไตรมาสแรกปีนี้รวมทั้งสิ้น 7 โครงการ แบ่งเป็นแนวราบ 4 และคอนโดมิเนียม 3 ซึ่งปกติยอดขายจะเข้ามาในช่วงครึ่งปีแรก 40% และครึ่งปีหลัง 60%

 

บริษัทตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 1.83 หมื่นล้านบาท ส่วนรายได้ประมาณการจะอยู่ที่ 2.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมียอดรอรับรู้รายได้ (Backlog) 5,118 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 594 ล้านบาท และเป็นคอนโดมิเนียม 4,406 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ปีนี้ประมาณ 5,000 ล้านบาท และรับรู้ในปี 2561 ประมาณ 118 ล้านบาท

 

สำหรับแผนการเปิดโครงการใหม่ทั้งปี 2560 บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่ 16 โครงการ มูลค่า 2.2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 11 โครงการ มูลค่า 1.42 หมื่นล้านบาท คอนโดมิเนียม 5 โครงการ มูลค่า 7,938 ล้านบาท

 

ขณะที่แผนการขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) มูลค่า 1,300 ล้านบาท ที่ผ่านมาขายหุ้นได้แล้ว มูลค่า 1,000 ล้านบาท ส่วนอีก 300 ล้านบาท ยังอยู่ระหว่างเจรจา ซึ่งคาดว่าผู้ซื้อจะเป็นกลุ่มทุนในลักษณะผู้ประกอบการ ทั้งนี้ก่อนหน้าทาง PF ได้ดึงกลุ่มทุนของวิริยะประกันภัยเข้ามาถือหุ้นโดยในเงินจำนวน 500 ล้านบาท และนายวิวัฒน์ วิฑูรย์เธียร ในเงินซื้อหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 200 ล้านบาท

 

อย่างไรก็ตาม ในงวดปี 2559 บริษัทมีกำไรสุทธิ 399 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 360 ล้านบาท โดยมีรายได้ 1.24 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.2% เมื่อเปรียบเทียบปีก่อนที่มีรายได้ 1 หมื่นล้านบาท

 

สำหรับ PF เป็นบริษัทและบริษัทย่อยดำเนินการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว โครงการทาวน์เฮาส์และบ้านแฝดและโครงการคอนโดมิเนียมในรูปแบบที่หลากหลายในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเป็นหลัก โดยเน้นทำเลที่ตั้งที่มีศักยภาพสูง ใกล้แนวรถไฟฟ้า ราคาหุ้นปิด 0.93 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์