แห่ซื้อคอนโดปล่อยเช่าต่างชาติ อสังหาแนวรถไฟฟ้า-เมืองท่องเที่ยวยังคึก
Loading

แห่ซื้อคอนโดปล่อยเช่าต่างชาติ อสังหาแนวรถไฟฟ้า-เมืองท่องเที่ยวยังคึก

วันที่ : 27 มีนาคม 2560
แห่ซื้อคอนโดปล่อยเช่าต่างชาติ อสังหาแนวรถไฟฟ้า-เมืองท่องเที่ยวยังคึก

โบรกเกอร์ฟันธงธุรกิจอสังหาปีนี้ยังคึกคัก นักลงทุนแห่ซื้อคอนโดปล่อยให้นักธุรกิจและนักท่องเที่ยวต่างชาติเช่า ชี้ย่านสุขุมวิทตามแนวรถไฟฟ้าและเมืองท่องเที่ยวฮิต ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์เคทีบีคาดกำไรบริษัทในตลาดหุ้นปีนี้กำไรโตยกแผงกลุ่มแบงก์ พลังงาน ก่อสร้าง สื่อสารโชว์กำไรสูงสุด ขณะที่ท่องเที่ยว และขนส่งกำไรเติบโตมากสุด

นายชาตรี โรจนอาภา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีบี เปิดเผยว่า ในปี 60 คาดว่าบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์จะมีกำไรรวมกัน 24,309 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10.27% เนื่องจากผู้ประกอบการที่เลื่อนเปิดตัวโครงการในปลายปีที่แล้วมาเปิดตัวในปีนี้มากขึ้น ประกอบกับมีนักลงทุนหันมาลงทุนซื้อคอนโดมิเนียมในโครงการใหม่ๆ ที่เปิดตามใจกลางกรุงเทพฯที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว และตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า และตามเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆ เพื่อให้นักธุรกิจต่างชาติที่ทำงานในไทยและนักท่องเที่ยว เข้ามาเช่า เพราะจะได้ผลตอบแทนที่สูงมาก นอกจากมีการเปิดโครงการใหม่ๆเพิ่มขึ้นในปีนี้แล้ว ยังพบว่า อัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มสูงขึ้นก็มีผลเช่นกัน ทำให้ผู้บริโภคต้องเร่งซื้อที่อยู่อาศัยกันมากขึ้นก่อนที่ดอกเบี้ยเงินกู้จะสูงขึ้นกว่านี้ และระยะหลังการซื้อคอนโดเพื่อลงทุนมีสัดส่วนที่สูงขึ้น ส่วนใหญ่ลงทุนเพื่อให้นักท่องเที่ยวและนักธุรกิจต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทยเช่า โดยย่านสุขุมวิทและย่านตามแหล่งท่องเที่ยวจะได้รับความนิยมมากขึ้น

นายชาตรีกล่าวต่อว่า ขณะนี้ บล.เคทีบีได้ปรับเพิ่มประมาณกำไร บจ.ปี 60 ใหม่ จากเดิมที่คาดว่าจะมีกำไร 940,000 ล้านบาท เพิ่มเป็น 990,000 ล้านบาท เนื่องจากผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 59 ที่ผ่านมาออกมาดีและแต่ละบริษัทได้ตั้งเป้าเพิ่มรายได้ปี 60 กันจำนวนมาก โดยคาดว่ากลุ่มที่จะมีกำไรสูงสุดคือ กลุ่มธนาคารที่คาดว่าจะมีกำไรรวม 232,197 ล้านบาท รองลงมาเป็นกลุ่มพลังงาน คาดมีกำไรรวม 168,058 ล้านบาท, กลุ่มวัสดุก่อสร้าง กำไร 55,739 ล้านบาท, กลุ่มสื่อสาร กำไร 54,915 ล้านบาท และกลุ่มพาณิชย์ กำไร 38,789 ล้านบาท

ส่วนกลุ่มที่คาดว่าจะมีกำไรเติบโตจากปีก่อนมากสุด หรือเพิ่มขึ้นสูงสุด คือกลุ่มขนส่ง คาดว่าจะมีกำไร 36,761 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.48% รองลงมาเป็นบรรจุภัณฑ์ กำไร 785 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.98%, กลุ่มท่องเที่ยว กำไร 8,844 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.12%, กลุ่มพาณิชย์ กำไร 38,789 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.49% กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ กำไร 2,694 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.36% ธุรกิจขนส่งและท่องเที่ยวมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการขยายตัวของภาคท่องเที่ยวและราคาน้ำมันที่ลดลง ส่งผลให้กลุ่มขนส่งมีกำไรที่เพิ่มขึ้นมากสุดเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นๆ โดยกลุ่มขนส่ง เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์, อุตสาหกรรมการบิน, การขนส่งทั่วไป ส่วนธุรกิจท่องเที่ยว มีปัจจัยหลักจากปริมาณนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

 

 

 

ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ