jeamjit.s@than-multimedia.com

จากการวิเคราะห์ภาพรวมความต้องการคอนโดมิเนียมของต่างชาติ โดยบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด พบว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ ลูกค้าต่างชาติที่อาศัยอยู่ในไทย จากการเก็บข้อมูลของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ตั้งแต่ปี 2555-2560 ความต้องการขยายตัวถึงกว่า 700% ความต้องการส่วนใหญ่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง 72% และซื้อเพื่อลงทุน 28% ในส่วนนี้เป็นการปล่อยเช่า 21% และขายต่อ 7% โดยความต้องการในกรุงเทพฯ มีสัดส่วนการขายมากที่สุด (58%) รองลงมาเป็นพื้นที่ติดทะเลอย่างภูเก็ต ชลบุรี หัวหิน (16%, 13% และ 6% ตามลำดับ) สุดท้ายคือพื้นที่ท่องเที่ยวในภาคเหนืออย่างเชียงใหม่และแหล่งท่องเที่ยวอย่างพัทยา (เท่ากันที่ 2%)

ส่วนกลุ่มที่ 2 คือความต้องการจากชาวต่างชาติที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศไทย ยกตัวอย่างโครงการของแสนสิริที่นำออกไปขายต่างประเทศ เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ จีน และไต้หวัน ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีสัดส่วนการซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่าถึง 82% ขายต่อ 4% และอีก 14% เป็นการซื้อเพื่อเป็นบ้านหลังที่สองสำหรับอยู่อาศัยเอง

โดยปัจจัยบวกที่ทำให้คอนโดมิเนียมในไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ เป็นที่สนใจของต่างชาติ เป็นเพราะว่ามีราคาที่ถูกกว่าฮ่องกงหรือสิงคโปร์อยู่มาก และมีผลตอบแทนการปล่อยเช่าและขายต่อที่ดี รวมถึงภาพลักษณ์น่าความเชื่อถือของผู้ประกอบการไทย และการบริการหลังการขายที่มีคุณภาพ

ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ