GOLD มุ่งแนวราบ 1.8 หมื่นล.
โกลเด้นแลนด์ มองตลาดแนวราบปี 60 ชี้ความต้องการสูง พร้อมเผยแผนสู่ผู้นำนวัตกรรมทาวน์โฮม ผ่านกลยุทธ์ "3F+2GP" จ่อผุด 17 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท โชว์ยอดขายไตรมาสแรกทะลุเป้ากว่า 3.9 พันล้าน คาดสิ้นปีโกยยอดขายโครงการแนวราบ 1.8 หมื่นล้านบาท
นายภวรัญชน์ อุดมศิริ กรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาโครงการทาวน์โฮมและบ้านแฝด บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นแลนด์ (GOLD) เปิดเผยถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 1 ปี 2560 ว่า มีอัตราการฟื้นตัวเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงไตรมาส 4 ของปี 2559 แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าในช่วง 3 ไตรมาสที่เหลือของปีเศรษฐกิจของประเทศ จะกลับมาเติบโตในทิศทางที่ดีได้อีกครั้ง ในขณะที่ภาพรวมอสังหา ริมทรัพย์ในปีนี้เชื่อว่ายังมีแนวโน้มการขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะในตลาดแนวราบที่ยังคงมีความต้องการจากกลุ่มผู้บริโภคเพื่ออยู่อาศัยจริงอย่างต่อเนื่อง
การดำเนินงานของกลุ่มทาวน์โฮมในปี 2560 บริษัทได้วางกลยุทธ์หลักให้แบรนด์ "โกลเด้น ทาวน์" เป็นผู้นำนวัตกรรมทาวน์โฮม ผ่านกลยุทธ์ "3F+2GP"ได้แก่ Function โดยเป็นการออกแบบการใช้งานให้มากกว่าทาวน์โฮมทั่วไป Facilty ยกระดับคุณภาพชีวิตทาวน์โฮมให้เทียบเท่าบ้านเดี่ยว Facade ออกแบบด้านหน้าอาคารให้มีเอกลักษณ์ Good Pr เพิ่มการสื่อสารให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง และ Good Peple การที่บริษัทมีวัฒนธรรมองค์กรพนักงานจะใหัความร่วมมือในการช่วยเหลือเวลาที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ทุกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าเปิดตัวโครงการทาวน์โฮมใหม่ทั้งหมด 17 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 17,000 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดตัว 3 โครงการใหม่ ได้แก่ โกลเด้น ทาวน์ อ่อนนุชลาดกระบัง โกลเด้น ทาวน์ วงศ์สว่าง-รัชดา และโกลเด้น ทาวน์ บางนา-สวนหลวง โดยสามารถทำยอดขายรวมได้กว่า 2,200 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาส 2 ปี 2560 บริษัทมีแผนเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่ม 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ โกลเด้น ทาวน์ 2 สุขสวัสดิ์-พุทธบูชา มูลค่า 1,000 ล้านบาท และ โครงการโกลเด้น ทาวน์ ศรีราชา มูลค่า 1,300 ล้านบาท โดยตั้งเป้ายอดขายในไตรมาส 2 อยู่ที่ 3,000 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสแรก บริษัทมียอดขายจากโครงการทาวน์โฮมแล้ว 3,960 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของไตรมาสแรกที่ตั้งไว้ 81% หรือ 2,190 ล้านบาท จากเป้ายอดขายทั้งปีที่ 13,000 ล้านบาท เติบโต 40% เทียบกับปีที่ผ่านมาที่มียอดขาย 9,000 ล้านบาท และคาดว่าทั้งปีนี้จะมียอดขายจากโครงการบ้านเดี่ยวที่ 5,000 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 1,200 ล้านบาท
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ