THANA ลุยอสังหาภูเก็ตใส่เกียร์รุกตลาดออนไลน์
บอสใหญ่ THANA "สุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์" ดันผลงานปีนี้ดีกว่าปีก่อน ปักธงรายได้แตะ 1.2 พันล้านบาท หรือโต 20% แย้มอยู่ระหว่างจ้างต่างชาติทำวิจัยที่อยู่อาศัย หวังพัฒนาโครงการอสังหาภูเก็ต คาดชัดเจนไตรมาส 3/60 เดินเกมรุกตลาดออนไลน์เต็มสูบ หวังยอดผู้เยี่ยมชมโครงการทะยานเท่าตัว
นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ กรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THANA เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างว่าจ้างบริษัทต่างชาติทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย และพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในอำเภอกมลา จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นที่ดินเปล่ามูลค่าตามบัญชี 59.8 ล้านบาท ราคาประเมิน 777.9 ล้านบาท อย่างไรก็ตามบริษัทต้องการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ตอบโจทย์ต่อลูกค้าและผู้บริโภคให้มากที่สุด เบื้องต้นคาดจะได้ข้อสรุปประมาณไตรมาส 3/2560
ส่วนแผนการลงทุนจะเป็นรูปแบบไหนและจำเป็นต้องร่วมทุนกับพันธมิตร หรือลงทุนเองทั้งหมดหรือไม่นั้น บริษัทขอพิจารณาหลังผลการวิจัยโครงการออกมา
ไม่ทราบเหตุราคาหุ้นพุ่ง
สำหรับการที่ราคาหุ้น THANA ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงเมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่ผ่านมา บริษัทยังไม่ทราบถึงสาเหตุ เนื่องจากบริษัทยังไม่มีข้อมูลใหม่ หรือข่าวดีที่จะส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น ล่าสุดบริษัทได้เดินทางไปให้ข้อมูลในงาน Opportunity Day วันที่ 15 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยภาพรวมธุรกิจทั้งปี 2560 บริษัทคาดจะเติบโตต่อเนื่องจากปี 2559
"เราไม่ทราบถึงสาเหตที่ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่อาจจะเป็นเพราะที่ผ่านมาราคาเราปรับลดลงไปมาก ที่และเราได้เดินทางไปให้ข้อมูลนักลงทุนในงานออฟเดย์ที่ตลาดทำให้ความเชื่อมั่นนักลงทุนเริ่มกลับมา ส่วนภาพรวมธุรกิจของ THANA เรามองว่าน่าจะมีแนวโน้มกลับมาเติบโตได้ดี แม้ 2 เดือนแรกของปี 2560 ยอดขายจะยังไม่คึกคักมากเท่าที่ควร" นายสุทธิรักษ์กล่าว
นายสุทธิรักษ์ กล่าวต่อว่า ในไตรมาส 2/2560 บริษัทเตรียมเปิดโครงการแนวราบ โครงการธนาฮาบิแทต ปิ่นเกล้า-สิรินธร มูลค่าโครงการราว 900 ล้านบาท สำหรับโครงการดังกล่าวมีพื้นที่ 26.2 ไร่ 95 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 190-300 ตารางเมตร ส่วนอีก 1 โครงการ โครงการธนาซิโอ มูลค่าราว 100 ล้านบาท คาดจะเปิดตัวในไตรมาส 4/2560 บนพื้นที่ 3.2 ไร่ 40 ยูนิต
ตั้งเป้ารายได้ปี 60 โต 20%
นอกจากนี้บริษัทมีโครงการในมือที่รอขายทั้งหมด 8 โครงการ มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 7 โครงการในเขตจังหวัดนนทุบรี มูลค่าโครงการรวม 2,200-2,300 ล้านบาท และ 1 โครงการที่จังหวัดอุดรธานี มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะเน้นการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยใน 3 เดือนที่ผ่านมามีจำนวนผู้เยี่ยมชมโครงการมากขึ้นเท่าตัว หลังบริษัทมีการประชาสัมพันธ์โครงการต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์
พร้อมกันนี้บริษัทคาดในปี 2560 จะใช้งบลงทุนด้านการประชาสัมพันธ์ด้านการตลาดเท่าเดิม เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ราวๆ 4% แต่จะส่งผลให้บริษัทมีอัตราการเติบโตได้สูงกว่าปีก่อน เนื่องจากบริษัทประเมินการตลาดปีนี้จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ประกอบกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเริ่มกลับมามีกำลังฟื้นต่อเนื่อง ดังนั้นบริษัทคาดอัตราการเติบโตของรายได้ในปี 2560 จะเติบโตได้ตามแผน หรือมีการเติบโตที่ 20% ไปที่ 1,100-1,200 ล้านบาท จากสิ้นปี 2559 บริษัทมีรายได้ 790.09 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมี Backlog อยู่ที่ 120 ล้านบาท คาดจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาในเร็วๆ นี้ค่อนข้างมาก
สำหรับในอนาคตบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการอสังหา แนวสูง แต่คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในอีก 5 ปีข้างหน้า เนื่องจากปัจจุบันบริษัทประเมินการเติบโตของอสังหาริมทรัพย์แนวราบยังมีโอกาสเติบโตได้สูง ประกอบกับบริษัทมีแผนจะขยายโครงการไปยังพื้นที่อื่นๆ จากก่อนหน้านี้บริษัทพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในวงแคบ
ที่มา : หนังสือพิมพ์ทันหุ้น