ดีเฮ้าส์ แลนด์ลอร์ดมหาสารคามลงทุนไม่ยั้งผุดโครงการมิกซ์ยูสพันล.รับเมืองการศึกษาโต-เข้าตลาดหุ้นปี 62
Loading

ดีเฮ้าส์ แลนด์ลอร์ดมหาสารคามลงทุนไม่ยั้งผุดโครงการมิกซ์ยูสพันล.รับเมืองการศึกษาโต-เข้าตลาดหุ้นปี 62

วันที่ : 6 เมษายน 2560
ดีเฮ้าส์ แลนด์ลอร์ดมหาสารคามลงทุนไม่ยั้งผุดโครงการมิกซ์ยูสพันล.รับเมืองการศึกษาโต-เข้าตลาดหุ้นปี 62

"ดีเฮ้าส์" ทุนขอนแก่นยึดหัวหาดอสังหาฯ เมืองมหาสารคาม เดินหน้าพัฒนาบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม อาคารพาณิชย์ 5 โครงการ เจาะลูกค้ากลุ่มบุคลากรการศึกษา-นิสิตกว่าแสนคน พร้อมเร่งแต่งตัวเข้าตลาดหุ้นปี'62 หวังระดมทุนผุดโครงการมิกซ์ยูส 1,000 ล้าน หอพักโรงแรม-ไลฟ์สไตล์มอลล์รองรับเมืองการศึกษาโต ชี้จุดแข็งมีต้นทุนที่ดินต่ำกระจายอยู่ในทำเลทอง กางแผนทยอยลงทุนเพิ่มใน 5 ปี พื้นที่ 500 ไร่ มูลค่ากว่า 3,400 ล้านบาท

บุกสารคามรองรับเมืองการศึกษา

นายพงศ์พจน์ เลิศรุ้งพร กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ดีเฮ้าส์ พัฒนา จำกัด กลุ่มทุนจากจังหวัดขอนแก่นที่เข้ามาปักหลักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ศักยภาพของจังหวัดมหาสารคามเป็นเมืองการศึกษาที่มีการขยายตัวของนักศึกษาและบุคลากรอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับจังหวัดขอนแก่น แต่การแข่งขันในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังไม่สูงมากนัก โดยดีเฮ้าส์เริ่มดำเนินธุรกิจตั้งแต่ปี 2553 มีโครงการที่ปิดการขายไปแล้วเมื่อปี 2555 จำนวน 1 โครงการ คือ โครงการพนารมย์ 79 ยูนิต มูลค่า 200 ล้านบาท

ขณะที่ปัจจุบันมีโครงการอยู่ระหว่างการขาย 4 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการแกรนด์ เรสซิเดน บริเวณกิโลเมตร 1 ตรงข้ามโกลบอลเฮ้าส์ เป็นบ้านเดี่ยว 122 ยูนิต มูลค่า 390 ล้านบาท 2.โครงการเดอะ แกรนด์ คาแนล บริเวณริมคลองกลางใจเมืองมหาสารคาม มีทั้งอาคารพาณิชย์ โฮมออฟฟิศ และทาวน์โฮม 165 ยูนิต มูลค่า 420 ล้านบาท 3.โครงการ แกรนด์ บิส บริเวณสี่แยกสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตมหาสารคาม เส้นมหาสารคามโกสุมพิสัย เป็นอาคารพาณิชย์ 50 ยูนิต มูลค่า 180 ล้านบาท และ 4.โครงการบ้านวนารมย์ บริเวณสี่แยกศูนย์ราชการ 65 ยูนิต มูลค่า 200 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มดำเนินการกลางปี 2560

ทั้งนี้ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มข้าราชการ อาจารย์ แพทย์ และบุคลากรทางการศึกษา เนื่องจากจังหวัดมหาสารคามมีสถาบันการศึกษาหลายแห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยราชภัฏสารคาม และสถาบันพลศึกษา เป็นต้น ประกอบกับ สถาบันการศึกษามีการก่อสร้างอาคาร รวมถึงการเปิดหลักสูตรใหม่ ๆ เพื่อรองรับจำนวนนักศึกษาที่เพิ่มขึ้นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เมืองมหาสารคามเกิดการขยายตัวอย่างรวดเร็ว มีคนนอกพื้นที่เข้ามาทำงานมากขึ้น จึงทำให้มีลูกค้ากลุ่มแพทย์และสตาร์ตอัพเพิ่มเข้ามาด้วย

แต่งตัวเข้าตลาดหุ้นปี'62

นายพงศ์พจน์กล่าวว่า การเติบโตอย่างต่อเนื่องของบริษัท และคาดการณ์ว่าภาวะเศรษฐกิจของประเทศน่าจะฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ต้นปี 2561 เป็นต้นไปจึงได้แต่งตั้งบริษัท แอสเซทโปร แมนเนจเมนท์ จำกัด (APM) เป็นบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน เตรียมเข้าสู่การเป็นบริษัทมหาชน โดยเตรียมจะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในไตรมาส 3/ 2562 เพื่อให้เป็นมาตรฐานมากขึ้น และแบรนด์ดีเฮ้าส์แข็งแกร่งทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจมากขึ้น

นอกจากนั้นเมื่อเข้าสู่ตลาดหุ้นแล้วได้เตรียมขยายการลงทุนไปตามหัวเมืองใหญ่ ๆ รวมทั้งเตรียมพัฒนาพื้นที่ 100 ไร่ ใกล้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มอใหม่) เป็นโครงการมิกซ์ยูส โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ การให้เช่า จะพัฒนาเป็นหอพัก 2,000 ห้อง หรือประมาณ 20 ตึก บนพื้นที่ 40 ไร่ ซึ่งจะมีการแยกเป็นหอพักชาย หอพักหญิง หอพักรวม และหอพักอาจารย์ เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายและเป็นสัดส่วน เจาะตลาดนักศึกษาและบุคลากรในมหาวิทยาลัยที่มีมากกว่า 50,000 คน และมีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งมีความได้เปรียบในการเดินทาง เพราะอยู่ห่างจากรั้วมหาวิทยาลัยเพียง 100 เมตร คาดว่าจะเริ่มดำเนินการประมาณปี 2562 ด้วยการระดมทุนจากตลาดหุ้น และคาดว่าจะคืนทุนภายใน 7-8 ปี

ขณะที่อีกส่วนหนึ่งจะพัฒนาเพื่อการขาย ได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด อาคารพาณิชย์ และทาวน์โฮมประมาณ 500 ยูนิต บนพื้นที่ 60 ไร่ รองรับนักศึกษาที่เข้ามาอยู่ รวมทั้งมีพื้นที่ให้เช่าเปิดร้านอาหาร และร้านแบรนด์ดังต่าง ๆ โดยจะเริ่มลงทุนประมาณปี 2562 ใช้งบประมาณทั้งหมดราว 1,100 ล้านบาท

จุดแข็งต้นทุนแลนด์แบงก์ต่ำ

นายพงศ์พจน์กล่าวต่อว่า บริษัทมีข้อได้เปรียบคือมีแลนด์แบงก์ประมาณ 500 ไร่ในจังหวัดขอนแก่นและมหาสารคาม โดยกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ แยกเป็นจังหวัดมหาสารคาม 90% และขอนแก่น 10% ซึ่งพื้นที่ทำเลทองบริเวณมหาวิทยาลัยซื้อไว้เฉลี่ยไร่ละ 1-2 ล้านบาท ปัจจุบันราคาที่ดินพุ่งสูงขึ้นถึงไร่ละ 20 กว่าล้านบาท รวมถึงที่ดินในโซนอื่น ๆ จากไร่ละ 1 ล้านบาท ปัจจุบันสูงถึงไร่ละ 8 ล้านบาท ทำให้กลุ่มทุนจากขอนแก่น 2-3 ราย ที่เคยเข้ามาลงทุน อสังหาฯในจังหวัดสารคาม สู้ได้ลำบาก เพราะกำแพงราคาที่ดิน รวมถึงแบรนด์ใหญ่จากกรุงเทพฯ ที่เข้ามาแล้วก็ต้องกลับไปลงทุนในภาคกลางเช่นเดิม และรายใหม่ ๆ ที่จะมาลงทุน

"ปัจจุบันแม้ว่ากลุ่มทุนต่าง ๆ ประสบภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดีนัก แต่ดีเฮ้าส์ไม่ค่อยได้รับผลกระทบ เนื่องจากเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน และมีโลเกชั่นกระจายอยู่รอบเมือง สามารถเพิ่มทางเลือกที่หลากหลายให้ลูกค้า ขณะเดียวกันก็เจอปัญหาธนาคารไม่ปล่อยกู้ให้ลูกค้ารายย่อยแต่ลูกค้าของดีเฮ้าส์ก็ยังคงมีเท่าเดิม ไม่ลดลง จึงกระตุ้นการขาย เช่น ฟรีค่าโอน ลดค่าจดจำนอง"

วางแผนพัฒนาที่ดินอีก 500 ไร่

นายพงศ์พจน์กล่าวอีกว่า วางแผนจะพัฒนาพื้นที่ 20 แปลง ประมาณ 500 ไร่ ในจังหวัดมหาสารคามและขอนแก่น มูลค่ากว่า 3,400 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2560-2564 ประกอบด้วย 1.โครงการพัฒนาที่ดิน 3 ไร่ใกล้มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม เป็นหอพัก 240 ห้อง 2.โครงการพัฒนาที่ดิน 200 ไร่ใกล้โชว์รูมนิสสัน จังหวัดมหาสารคาม เป็นบ้านเดี่ยว 580 ยูนิต

3.โครงการพัฒนาที่ดินริมคลองสมถวิล อำเภอเมืองมหาสารคาม บริเวณหน้าโครงการเดอะ แกรนด์ คาแนล บนพื้นที่ 6 ไร่ โดยจะพัฒนาเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว ซึ่งนับเป็นแห่งแรกของจังหวัด โดยเตรียมจะเซ็นสัญญากับเครือข่ายโรงแรมชั้นนำ เพื่อทำให้เป็นมาตรฐานสากล มีคุณภาพและการบริการที่ดี

4.โครงการพัฒนาที่ดิน 14 ไร่ใกล้โชว์รูมฮอนด้า และมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม จะพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูส เช่น ไลฟ์สไตล์มอลล์ อาคารพาณิชย์ และโรงแรม 5.โครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณถนนมิตรภาพ ตำบลท่าพระ อำเภอเมืองขอนแก่น จำนวน 15 ไร่ เป็นแวร์เฮาส์ ขนาด 10,000 ตารางเมตร

นอกจากนี้เตรียมลงทุนเพิ่มอีก 20 ล้านบาทขยายพื้นที่คลังสินค้าเพิ่มอีก 5,000 ตารางเมตร เป็นศูนย์กระจายวัสดุก่อสร้างไปสู่ไซต์งานต่าง ๆ ในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้การก่อสร้างแต่ละโครงการของดีเฮ้าส์รวดเร็วขึ้น รวมถึงรีโนเวตสำนักงานใหญ่ที่จังหวัดมหาสารคาม

ที่มา : หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ

 

 

 

ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ