"ดีไอ" หาช่องทำตลาดร้านรีเทลวัสดุตกแต่งที่เน้นนวัตกรรม แปลกใหม่ หวังสร้างความต่างทางธุรกิจ คู่แข่งน้อย ทุ่ม 50 ล้านบาท ทำตลาดเชิงรุกทุกช่องทาง วางตัวเลขขายปีนี้ 100 ล้านบาท ลั่น 5 ปีขึ้นผู้นำในทุกตลาด จ่อปักธงสาขาในเมือง แหล่งโครงการบ้านจัดสรร

นางศศิวิมล สินธวณรงค์ ผู้คร่ำหวอดในการทำงานด้านการออกแบบในบริษัทชั้นนำ ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีไอ คอนเซ็ปต์ สโตร์ จำกัด (DI) ซึ่งดำเนินธุรกิจร้านรีเทลวัสดุตกแต่งแนวไลฟ์สไตล์แห่งแรกของเอเชีย กล่าวว่า ภายหลังจากการสำรวจตลาดสินค้าวัสดุตกแต่งภายในประเทศไทยแล้ว พบว่าสินค้าที่มีนวัตกรรมตกแต่งค่อนข้างมีน้อย โดยเฉพาะสินค้าเฉพาะกลุ่มที่หายากไม่ค่อยมีในตลาด โดยเห็นว่าวัสดุปิดผิว (Interior Surfaces) ยังไม่มีผู้ทำตลาดอย่างชัดเจน จึงเป็นโอกาสที่จะเข้ามาทำตลาดและขยายธุรกิจ เพราะประเทศไทยยังมีวัตถุดิบที่หลากหลาย แต่ยังขาดการส่งเสริมด้านงานครีเอตและการพัฒนาขบวนการผลิตให้ทันสมัยที่สามารถนำสินค้าแปลกใหม่มานำเสนอได้อีกช่องทางหนึ่งด้วย

ภาพรวมตลาดวัสดุตกแต่งในไทยมีมูลค่ารวมประมาณ 5 หมื่นล้านบาท โดยหลักๆ เป็นวัสดุปิดผิว 80% ทั้ง Hard Finishing และ Soft Finishing และวัสดุมีดีไซน์ หรือสินค้าไฮเอนด์ 20% ซึ่งเป็นสินค้าที่มีความต้องการเป็นอย่างมาก เช่น ในธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร โรงพยาบาล และที่อยู่อาศัย โดยมีผู้จำหน่ายในกลุ่มสินค้าดังกล่าวไม่มากและมีความหลากหลายของแต่ละแบรนด์อีกด้วย

เพื่อตอบโจทย์และขยายตลาดในปีนี้จะให้ความสำคัญกับการทำการตลาดทั้งแบบ e-Commerce and s-Commerce ที่เน้นการให้บริการที่รวดเร็วให้กลุ่มเป้าหมายได้รับความสะดวกสูงสุด โดยสินค้าของบริษัทจะนำเข้าจากต่างประเทศประมาณ 70% มีทั้งจากในเอเชีย และยุโรป เช่น อิตาลี ฝรั่งเศส ไต้หวัน อินโดนีเซีย มาเลเซีย เบลเยียม และอินเดีย เป็นต้น ส่วนอีกประมาณ 30% เป็นสินค้าสั่งทำที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทันที โดยสัดส่วนสินค้าระดับเอ็กซ์คลูซีฟ 30% และอีก 70% เป็นสินค้าสั่งซื้อได้เลย ซึ่งกลุ่มลูกค้าของบริษัท 60% เป็นสถาปนิกและลูกค้าโครงการ (ต้นน้ำ) และผู้ใช้อีก 30-40%"งบการตลาดปีนี้วางไว้สูงถึง 50ล้านบาท เน้นสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มเป้าหมายได้รู้จักและทดลองเข้ามาใช้บริการของดีไอ โดยงบจะกระจายไปยังหน้าร้าน ออนไลน์ และโซเชียลมีเดีย เฟซบุ๊ก และไลน์อย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงจะเข้าร่วมงานสถาปนิก'60 งานบ้านและสวน และงานแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ (TIFF) โดยหลังจากเปิดธุรกิจมาได้ 10 เดือน มีผลตอบรับดี ทำยอดขายกว่า 30 ล้านบาท จึงวางเป้าปีนี้ที่ตัวเลข 100 ล้านบาท"

นางศศิวิมล ยังได้กล่าวถึงความท้าทายว่า ใน 5 ปี มีเป้าหมายเป็น 1 ในผู้นำตลาดในทุกกลุ่ม มีอัตราเติบโตปีละ 15% และอาจจะเติบโตได้ 30% หลังการเลือกตั้ง ทั้งนี้ ในแผนขยายสาขาต้องเกิดขึ้น โดยภายใน 5 ปีจะตั้งอีก 2-3 แห่งภายในเมืองหรือทำเลที่มีโครงการที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นจำนวนมาก เช่น ย่านสีลม สาทร ราชพฤกษ์ เกษตร-นวมินทร์ และลาดพร้าว โดยจะใช้เงินลงทุนในแต่ละชอปประมาณ 20 ล้านบาท และต้องมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 500 ตารางเมตร

ล่าสุด บริษัทฯ ได้เปิดตัว TVC แนะนำตัวชุดแรกออกเผยแพร่ภายใต้คอนเซ็ปต์ Second Skin ผ่านความงานของผิวสัมผัสบนพื้นผิวสตรี โดยจะออกเผยแพร่ในสื่อออนไลน์เป็นครั้งแรก

ที่มา : ผู้จัดการรายวัน 360 องศา