"ธนาสิริ-ลลิลฯ" ปักธงโซนนนทบุรีจ่อขยายฐานแนวราบพร้อมชิงเค้กตลาดทาวน์เฮาส์ มั่นใจกำลังซื้อสูง

นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัทธนาสิริ กรุ๊ป เปิดเผยว่า ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ของ จ.นนทบุรี ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2560 ดีขึ้น โดยเฉพาะโครงการ แนวราบทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดระดับราคา 3-4 ล้านบาท มีความคึกคักแต่ก็ยังมีปัญหา การขอสินเชื่อกับธนาคารอยู่บ้าง ส่วนบ้านเดี่ยวระดับ 5 ล้านบาทขึ้นไปไม่มีปัญหา

ทั้งนี้ เชื่อว่าเมื่อมีการปรับผังเมืองรวมใหม่จะทำให้ทิศทางการพัฒนาที่อยู่อาศัยเปลี่ยนไปและจะเป็นบ้านชั้นดีมากขึ้น เนื่องจากจะมีการกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินกันใหม่ซึ่งมีผลต่อการพัฒนาโครงการของผู้ประกอบการและจะมีการกระจุกในหลายๆ พื้นที่ ดังนั้นราคาที่ดินในบางทำเลจะมีปรับขึ้นไปอีกหากโซนการพัฒนาที่อยู่อาศัยมีข้อจำกัดมากขึ้น อย่างไรก็ดีสิ่งที่จะได้เห็นในตลาดคือบ้านประเภททาวน์โฮมจะมากขึ้นเพราะต้นทุนแพงเพิ่มขึ้นและสอดคล้องกับกำลังซื้อในพื้นที่

สำหรับจำนวนโครงการมีพอสมควรระดับราคาหลากหลาย โดยในส่วนของบ้านแนวราบคาดว่าจะใช้เวลาระบาย 1 ปี คอนโดมิเนียมอาจใช้เวลามากกว่า 1 ปี ส่วนความต้องการซื้อบ้านใน จ.นนทบุรี มีทิศทางที่ดีขึ้นและเชื่อว่าไตรมาส 2 จะโตได้มากกว่าไตรมาสแรกเนื่องจากกำลังซื้อเริ่มกลับเข้ามา อีกทั้งธนาคารยังเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อเท่ากับเป็นการสกรีนลูกค้าไปในตัว มองว่าความต้องการซื้อบ้านมีอยู่มากแม้ราคาจะปรับขึ้นแต่หากทำเล โปรดักต์ ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายตลาดก็ยังคงไปได้

ขณะที่ในพื้นที่ผู้ประกอบการมีจำนวนไม่มากการแข่งขันยังไม่สูง โดยทำเลที่น่าจับตามองคือ ถนนราชพฤกษ์ ซึ่งใน 3-5 ปีข้างหน้าจะได้เห็นโครงการขนาดใหญ่เกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้ราคาที่ดินปรับสูงขึ้นเท่าตัวตอนนี้เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1 แสนบาท/ตารางวา (ตร.ว.) โดยหากเป็นที่ดินริมถนนราคา 8 หมื่น-1 แสนบาท/ตร.ว. ส่วนถนนสายรองราคาจะอยู่ที่ 3-5 หมื่นบาท/ตร.ว. โดยคอนโดจะเป็นที่อยู่อาศัยหลักบนถนนสายนี้ ส่วนบ้านแนวราบจะเข้าไปอยู่ในซอยแทน

ด้าน นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่า ลลิลฯ มองภาพรวมอสังหาฯ ไตรมาสแรกดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับเมื่อปีก่อน โดยในส่วนของบริษัทคาดว่าจะเพิ่มขึ้นกว่า 10% และไตรมาส 2 จะเติบโตต่อเนื่อง และเชื่อว่าตลาดรวมปีนี้น่าจะโตได้ 3-5%

สำหรับอสังหาฯ ชานเมือง มองว่า ตลาดยังมีการเติบโตแม้ซัพพลายคอนโดจะมีอยู่พอสมควรราว 5 หมื่นยูนิต แต่กระจายทั่วไป เช่น นนทบุรี-บางใหญ่ แนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง และบางนา-ตราด เป็นต้น ตลาดทาวน์เฮาส์ ราคา 1.5-3.5 ล้านบาท เติบโตได้ดี ปีนี้มีสัดส่วนในตลาดเพิ่มมากขึ้น คาดว่าใน 2-3 ปีข้างหน้าจะสามารถแซงหน้าตลาดบ้านเดี่ยว เนื่องจากราคาที่ดินมีการปรับตัวอย่างมาก ทำให้ต้นทุนบ้านเพิ่มขึ้น บ้านเดี่ยวในเมืองราคา 3 ล้านบาทจะหายไป และกำลังซื้อจะเป็นกลุ่มที่ต้องการซื้ออยู่จริงมากขึ้น

"ปีนี้บริษัทยังเน้นทำโครงการแนวราบราคาประมาณ 2 ล้านบาท โดยมีที่ดินในย่านนนทบุรีรอการพัฒนาอีกหลายแปลง แม้อุตสาหกรรมหลักจะยังไม่โตนัก แต่กำลังซื้อในตลาดที่อยู่ อาศัยยังมี ขึ้นอยู่กับฝีมือของผู้ประกอบการ ส่วนการพัฒนาคอนโดคงเป็นแผนของปี 2561 ทำเลมีทั้งชานเมืองและแนวรถไฟฟ้าในเมือง ซึ่งมองว่ากลุ่มราคา 2-3 ล้านบาทเป็นกลุ่มเรียลดีมานด์

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์