"ซีบีอาร์อี-คอลลิเออร์ส"ลุ้นตลาดอสังหาฯกระเตื้องครึ่งปีหลัง จากความชัดเจนการลงทุนโครงข่ายคมนาคมรัฐหนุนอสังหาฯ จับตารถไฟฟ้า 3 สายหนุนกรุงเทพฯโซนตะวันออก

จากการเปิดตัวโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ โดยเฉพาะแนวสูงในกรุงเทพฯ ช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมาอยู่ในภาวะชะลอตัว ส่งผลให้ที่ปรึกษาอสังหาฯ มองทิศทาง ไตรมาสสองไม่ต่างจากไตรมาสแรก ที่ต้อง รอลุ้นตลาดกระเตื้องครึ่งปีหลัง

นางอลิวัสสา  พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) จำกัด หรือซีบีอาร์อี   ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ ครบวงจร กล่าวว่า ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาสแรก ยังอยู่ในระดับทรงตัวใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือว่าไม่ได้เป็นสถานการณ์ที่เลวร้าย เป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ที่ไม่มีตัวบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นอย่างชัดเจน

แม้ว่าตลาดยังมีความต้องการที่อยู่อาศัย ต่อเนื่อง เพียงแต่ความสามารถในการใช้จ่าย รวมถึงเรื่องรายได้ยังไม่สอดรับกับราคาอสังหาฯ ที่ออกมาทำตลาด หรืออาจกล่าวได้ว่าราคาอสังหาฯสูงกว่ารายได้ทั่วไปของผู้ซื้อ

ส่วนการแข่งขันในตลาดยังคงรุนแรง ส่งผลให้ผู้ประกอบการรายเล็กและรายกลางลดลง รวมถึงบางส่วนหายไปจากตลาดพอสมควร เช่น การแข่งขันด้านงบการตลาดรายกลาง -ย่อยสู้กับรายใหญ่ที่มีทุนหนาได้ยาก ผนวกกับรายใหญ่มีจำนวนโครงการมากกว่าทำให้การทำตลาดคุ้มค่าและมีแบรนด์ที่แข็งแรงกว่า มองว่าถ้าหากรายเล็กสายป่านไม่ยาวอาจแข่งขันได้ยาก

โครงการกลางเมืองชะลอเปิดตัว

สำหรับภาพรวมโครงการอสังหาฯเฉพาะคอนโดมิเนียม ย่านใจกลางเมือง ที่เปิดตัวช่วงไตรมาสแรกเปรียบเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน พบว่า นักพัฒนาอสังหาฯชะลอเปิดตัว โครงการต่อเนื่อง เพราะต้องการรอดูสถานการณ์ตลาด

จากข้อมูลจำนวนโครงการที่เปิดตัวไปแล้วในช่วง 2เดือนแรก โดยเฉพาะย่านใจกลางเมือง พบว่าลดลงอยู่ที่ 2,978 ยูนิต เมื่อเทียบกับช่วง 2 เดือนแรกของปี2559 อยู่ที่ 3,269 ยูนิต จากการเปิดตัวทั้งปีก่อนอยู่ที่ 50,942 ยูนิต

"ทิศทางไตรมาส2 ยังทรงตัว จากวันหยุดในช่วงนี้ ผู้บริโภคจึงยังไม่สนใจซื้อ อสังหาฯ ส่วนใหญ่อสังหาฯ มักจะเปิดตัว โครงการกันมากช่วงไตรมาส 1และไตรมาส 3"

ลุ้นลงทุนรัฐหนุนครึ่งปีหลัง

นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและพัฒนา บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯในช่วงไตรมาสแรกว่ายังไม่แตกต่างจากไตรมาส 3และ4 ปีก่อนมากนัก

คอนโดในกรุงเทพฯเปิดตัวจำนวน 7,000 ยูนิต มีอัตราขายได้กว่า 50% หากนับรวมปริมณฑลก็จะอยู่ที่ 10,000 ยูนิต ถือเป็นการเปิดตัวระดับปกติ หรือเฉลี่ยไตรมาสละ 10,000 ยูนิต ปัจจุบันมีจำนวนคอนโดขายสะสมเฉพาะกรุงเทพฯ ราว 30,000 ยูนิต ถือว่าเหลือไม่มากนัก

ทั้งนี้ คาดว่าทิศทางไตรมาส2 จะมีคอนโด เปิดขายไม่เกินหมื่นยูนิต ส่วนกำลังซื้อ ผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น แต่ยังไม่อยู่ในสัญญาณที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน

ช่วงไตรมาส2 ต้องติดตามความชัดเจนการลงทุนโครงข่ายคมนาคม รถไฟฟ้าสายสีส้ม สายสีชมพู สายสีเหลือง  รวมทั้งแผนการลงทุนภาครัฐด้านการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ต่างๆ และผลักดันเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดว่าภาพรวมจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นช่วงครึ่งปีหลัง

สำหรับตลาดอสังหาฯแนวราบ มองว่า รายใหญ่ยังลงทุนเปิดโครงการแนวราบมากขึ้น  เพราะสามารถทยอยสร้างรายได้ต่อเนื่องหากปิดการขายได้ในแต่ละเฟส โดยใช้ระยะเวลาสร้างเสร็จ 3-4 เดือนสามารถโอนได้ทันที

โครงข่ายคมนาคมหนุนอสังหาฯโต

นายอิสระ บุญยัง นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า การเปิดตัวโครงการคอนโดปี2557-2559 ภาพรวมลดลงปีละ 13% หากมองในแง่บวก จำนวนที่ลดลงนี้จะไม่ทำให้ตลาดแนวสูงร้อนแรงจนเกินไป เมื่อเทียบกับในปี2556 ที่เปิดตัวทั้งปี 8.5 หมื่นหน่วย นับว่าสูงสุดในรอบ 16 ปี ตั้งแต่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ปี 2540

หากตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากโครงข่ายคมนาคมภาครัฐมากขึ้น ก็จะช่วยผลักดัน ให้ตลาดแนวราบและแนวสูง โดยเฉพาะในเขตชานเมืองขยายตัวมากขึ้น

"ชายนิด"เชื่อไตรมาส2ดีขึ้น

นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าตลาดอสังหาฯไตรมาส2 มีแนวโน้มดีขึ้นจากหลายปัจจัย ทั้งโครงข่ายคมนาคม รถไฟฟ้า สายสีต่างๆ เช่น สายสีส้ม จากศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี สายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง และสายสีชมพู แคราย มีนบุรี ที่มีความชัดเจนมากขึ้น

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะลงนามก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองได้ภายในเดือน เม.ย.นี้ หลังจากได้ลงนามสัญญาก่อสร้างสายสีส้มไปเมื่อช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา คาดว่ารถไฟฟ้าทั้ง 3 สายนี้จะสร้างเสร็จในปี 2562

"มองว่าความชัดเจนของการขับเคลื่อนโครงข่ายคมนาคม 3 สายนี้ จะส่งผลดีกับกรุงเทพฯโซนตะวันออก ถือเป็นหนึ่งในโซนที่มีคนอยู่อาศัยจำนวนมาก"

นอกจากนี้หากประเมินต่อเนื่องถึง ช่วงครึ่งปีหลัง ยังพบว่ามีปัจจัยบวกอื่นๆที่จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ รวมถึงตลาดอสังหาฯ เช่น ภาครัฐเตรียมแผนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) รวมถึงเตรียมแผนเชื่อมต่อคมนาคม ระบบรางมายังสนามบินอู่ตะเภา จะช่วยสร้าง ความคึกคักในโซนภาคตะวันออก ดึงดูดการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมมากขึ้น

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ