เตือนอสังหาผันผวนแข่งดุเดือดมหาดไทยแฉโรงแรมเถื่อนเพียบ
Loading

เตือนอสังหาผันผวนแข่งดุเดือดมหาดไทยแฉโรงแรมเถื่อนเพียบ

วันที่ : 17 เมษายน 2560
เตือนอสังหาผันผวนแข่งดุเดือดมหาดไทยแฉโรงแรมเถื่อนเพียบ

มหาดไทยเผยโรงแรมเถื่อนเกลื่อนเมือง 7,000 แห่ง อ้างขนาดความรู้เรื่องกฎหมายคาดกฎกระทรวงใหม่ผ่อนกฎเหล็กโรงแรมสนับสนุนจดทะเบียนได้ง่ายขึ้น คาดมีโรงแรมเข้าระบบเพิ่ม 5,000 แห่งช่วยให้รัฐเก็บภาษีค่าธรรมปีละกว่า 10,000 ล้านบาท ฝ่ายนายแบงก์แนะผู้ประกอบการปรับตัวสู้ความผันผวนและการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น คาดอสังหาเปิดตัวปีนี้เพิ่ม 6-8% ห่วงตลาดคอนโดฯ ระดับล่างยอดค้างสต็อกเพียบ

นายบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารเกียรตินาคิน กล่าวในงานเสวนา "เจาะลึกอสังหาฯ ไทยท่ามกลางไทยแลนด์ 4.0" ว่า แม้ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจของธนาคาร ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ทำธุรกิจในประเทศและเฉพาะพื้นที่เท่านั้น แต่ขณะนี้ถือว่า ภาวะของโลกอยู่ที่จุดเปลี่ยนแปลงมากที่สุดหนีไม่พ้นองค์กรธุรกิจเหล่านี้ต้องติดตามภาวะและเปิดรับข้อมูลข่าวสารมากขึ้นเพื่อให้สามารถปรับตัวได้ทันภาวะที่มีความผันผวนมากขึ้นมีความไม่แน่นอนสูง มีความซับซ้อน และมีความไม่ชัดเจน ซึ่งการบริหารธุรกิจสมัยใหม่ต้องคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ภาคสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นภาคธุรกิจที่สำคัญต่อเศรษฐกิจไทย ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับภาวะเศรษฐกิจและสภาวะการแข่งขันรุนแรงขึ้น

นายบัณฑูร นริศรางกูร ผู้อำนวยการส่วนรักษาความสงบเรียบร้อย 3 สำนักการสอบสวนและนิติการ กรรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย กล่าวในงานดังกล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยมีแนวคิดที่จะผลักดันให้ผู้ประกอบการโรงแรม โฮมสเตย์ โรงแรมขนาดเล็ก ที่ไม่ได้จดทะเบียนอย่างถูกต้องให้เข้าจดทะเบียนอย่างถูกต้อง ซึ่งปัจจุบันมีธุรกิจโรงแรมที่ไม่ได้จดทะเบียนอย่างถูกต้องหรือไม่ได้เข้าสู่ระบบประมาณ 7,000 แห่ง

ทั้งนี้สาเหตุที่โรงแรมเหล่านั้นยังไม่ได้เข้าสู่ระบบเนื่องจากมาจากปัญหาผู้ประกอบการไม่ทราบว่าจะเข้าสู่ระบบได้อย่างไรขาดการตีความเงื่อนไขหรือกฎเกณฑ์ของอาคารที่มีองค์ประกอบการเป็นโรงแรมตามกฎหมายว่ามีลักษณะอย่างไรบ้าง ดังนั้นจึงมีคำแนะนำเพื่อแก้ปัญหาให้โรงแรมเข้าระบบอย่างถูกกฎหมายว่า ในขั้นแรกจะต้องพิจารณาก่อนว่าตามกฎหมายผังเมืองตัวอาคารที่ตั้งสามารถทำโรงแรมได้หรือไม่ขั้นตอนที่สอง คือการยื่นวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และการพิจารณาตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมอาคารทั้งนี้ประเมินว่า หากมีโรงแรมที่อยู่นอกระบบเข้ามาจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายเพิ่มขึ้นประมาณ 5,000 แห่ง จะส่งผลให้รัฐสามารถจัดเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมได้ปีละประมาณ 10,000 ล้านบาท

นายอนวัช บูรพาชน วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษกรมโยธาธิการและผังเมืองกล่าวว่า กฎหมายโรงแรมและกฎหมายควบคุมอาคารเป็นกฎหมายที่มีความสัมพันธ์กัน ลักษณะที่พักอาศัยให้เช่าบางประเภทยังไม่เข้าเกณฑ์การเป็นโรงแรมตามกฎหมายเช่น พื้นที่ใช้สอย จำนวนห้อง ผังเมืองที่จอดรถ เนื่องจากเป็นการดัดแปลงบ้านให้เป็นโฮมสเตย์หรือโรงแรมขนาดเล็ก ซึ่งจะต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมายควบคุมอาคาร และต้องมีการจดทะเบียนประกอบธุรกิจให้ถูกต้องอีกด้วย

กรมโยธาฯ จึงได้ออกกฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2559 เพื่อผ่อนปรนให้ผู้ประกอบการดำเนินการอย่างถูกต้องอาทิ ช่องทางเดินในอาคารเดิมกำหนดให้ไม่เกิน 1.5 เมตร แต่กฎกระทรวงฉบับใหม่ผ่อนปรนให้เหลือเพียงไม่น้อยกว่า 1.2 เมตร ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการที่ปรับบ้านให้เป็นโฮมสเตย์ สามารถเข้ามาจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย การดัดแปลงอาคารที่ทำได้ง่ายที่สุดคือ การดัดแปลงอพาร์ตเมนต์มาทำโรงแรมขนาดเล็ก

ที่มา : หนังสือพิมพ์ดอกเบี้ยธุรกิจ

 

 

 

ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ