2 สมาคมฯ มองทั้งปีโต 5%
นายกสมาคมอาคารชุดไทย-สมาคมอสังหาฯ เชื่อกำลังซื้อเริ่มกลับมา ผู้ประกอบการเดินหน้าเปิดตัวโครงการ แบงก์คลายล็อกปล่อยสินเชื่อบ้าน หากรัฐบาลเร่งเบิกจ่ายงบ ไม่มีปัจจัยลบภายนอก ตลาดโตตามเป้า 5% แน่
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไตรมาส 1 ปี 2560 ว่า จากการสำรวจสถานการณ์ตลาดในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ต่อเดือนมีนาคม พบว่าผู้ประกอบการมีความมั่นใจในสภาพตลาดมากขึ้น สะท้อนจากการเปิดตัวโครงการใหม่ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น หลังจากชะลอเปิดตัวโครงการตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4 ปี 2559 ประกอบกับช่วงต้นปีนี้ที่ผ่านมาผู้ประกอบการโหมจัดกิจกรรมทางการตลาดอย่างเต็มที่ เพื่อระบายสต๊อกสินค้าที่มีอยู่
ในส่วนของผู้บริโภคเองต้นปีนี้เริ่มเห็นสัญญาณการบริโภคมากขึ้น ขณะที่สถาบันการเงินก็กลับมาปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยอีกครั้ง จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้คาดการณ์ได้ว่า ตลาดจะมีอัตราการเติบโตเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้คืออยู่ที่ 5% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 3.75 แสนล้านบาท
ขณะที่ทิศทางตลาดในไตรมาส 2 ปี 2560 มองว่าต้องรอดูสถานการณ์ตลาดหลังเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากมีปัจจัยภายนอกมากระทบตลาดค่อนข้างมาก แต่ก็เชื่อว่าแนวโน้มน่าจะปรับตัวดีขึ้น เพราะยังมีปัจจัยบวกอย่างอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำ แม้ว่าสหรัฐฯจะมีแนวโน้มการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง แต่ก็เชื่อว่าทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคมีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง หากจะมีการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยอีกก็คงไม่มาก ซึ่งเป็นผลดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่ทั้งนี้ก็ตัองขึ้นอยู่กับภาครัฐด้วยว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือได้ดีแค่ไหน โดยเฉพาะการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐผ่านโครงการต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้มีอัตราการเติบโตของจีดีพีที่ 3.2-3.5%
ด้านนายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า จากผลการสำรวจงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 36 ซึ่งจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 9-12 มีนาคม 2560 ที่มีผู้เข้าชมงานกว่า 100,000 คน และมียอดจองซื้อที่อยู่อาศัยภายในงานกว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าหลังจบงานจะมียอดขายตามมาอีก ไม่ต่ำกว่า 8,000 ล้านบาทนั้น เป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าทุกโครงการจะได้รับการตอบรับที่ดี แต่โครงการที่ตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพ ราคาอยู่ในระดับที่เหมาะสม และเป็นโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการจะได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการของผู้ประกอบการรายใหญ่ ในส่วนของผู้ประกอบการรายเล็ก ยังคงติดปัญหาถูกปฏิเสธสินเชื่อโครงการและสินเชื่อส่วนบุคคลจากสถาบันการเงิน โดยเฉพาะโครงการระดับราคาขายไม่เกิน 2 ล้านบาท ที่มียอดปฏิเสธสินเชื่อสูงถึง 30-40%
สำหรับทิศทางตลาดในไตรมาส 2 ปี 2560 ยังคงอยู่ในภาวะเดียวกับไตรมาส 1 เนื่องจากยังไม่เห็นปัจจัยเสริมด้านอื่นที่จะมาช่วยกระตุ้นตลาด ในขณะที่ปัจจัยลบยังคงอยู่ สำหรับตลาดในต่างจังหวัดก็ยังคงชะลอตัวเช่นเดิม ยกเว้นจังหวัดอยู่รอบโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ไม่ว่าจะเป็น ชลบุรี ระยอง จันทบุรี แต่จังหวัดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนคือ ฉะเชิงเทรา ที่ปัจจุบันราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้นกว่า 3 เท่าตัวในระยะ 1 ปี โดยที่ดินติดถนนใกล้เส้นทางรถไฟฟ้าเดิมราคาอยู่ที่ไม่กี่ล้านบาทต่อไร่ ปัจจุบันขึ้นเป็น 15 ล้านบาทต่อไร่
ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ