ESTARบุ๊กดีลใหญ่'นารา9'ดันยอดขายทั้งปีทะลุพันล.
ESTAR ลั่นปี 2560 คาดยอดขายบรรลุเป้า 1 พันล้านบาท หรือเติบโต 20% เทียบกับปีก่อน ส่วนรายได้รวมจะเติบโตสูงกว่า 2 พันล้านบาท หลังทยอยโอนโครงการใหญ่ "นารา 9" จากมูลค่ารวม 2.4 พันล้านบาท บิ๊ก "ต่อศักดิ์ เลิศศรีสกุลรัตน์" แย้มไตรมาส 1/2560 โชว์ยอดขายราวกว่า 300 ล้านบาท ชี้ตลาดคอนโดยังสดใส
ดร.ต่อศักดิ์ เลิศศรีสกุลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ESTAR เปิดเผยว่า ปี 2560 คาดยอดขายจะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ประมาณ 1 พันล้านบาท หรือเติบโต 20% เทียบกับปีก่อน ส่วนรายได้รวมจะเติบโตสูงกว่า 2 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อน ตามที่วางแผนไว้เช่นเดียวกัน
บุ๊กโครงการใหญ่ โดยเป็นผลมาจาก บริษัทอยู่ระหว่างทยอยโอนโครงการ "นารา 9" คอนโดมิเนียมหรูใจกลางสาทร มูลค่า 2,400 ล้านบาท คาดว่าภายในกลางปีนี้จะสามารถโอนล็อตใหญ่ได้ และรับรู้เป็นรายได้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ซึ่งโครงการนารา 9 เป็นอาคารชุดพักอาศัยสูง 40 ชั้น จำนวน 361 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ 3 ไร่ เป็นห้องชุดแบบ ยูนิตหน้ากว้าง มีระเบียงทุกยูนิต พร้อมสระว่ายน้ำลอยฟ้าแบบ Infinity Edge Pool มองเห็นวิวเมืองกว่า 180 องศา ขนาด 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 66 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 9.7 ล้านบาท ปัจจุบันเหลือยูนิตพร้อมขายอยู่เพียง 15% เท่านั้น ทั้งนี้ในช่วงไตรมาส 1/2560 บริษัทคาดว่าจะมียอดขายรวมกว่า 300 ล้านบาท โดยเป็นสัดส่วนยอดขายของโครงการในกรุงเทพฯ 90% และโครงการในจังหวัดระยอง 10% มีอัตราเติบโตอยู่ในระดับที่คาดหมายไว้
สำหรับภาพรวมตลาดคอนโดในไตรมาส 1/2560 ที่ผ่านมา ถือว่ามีความคึกคักมากขึ้น เนื่องจากช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีก่อนได้มีการชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่ โดยเลื่อนมาเปิดในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้แทนจึงส่งผลให้ภาพรวมตลาดคอนโด ดูคึกคัก
ส่วนคาดการณ์ตลาดในไตรมาส 2 และ 3 จะมีการเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มตลาดที่ยังไปได้ดีคือระดับราคา 3-7 ล้านบาท และตลาดที่น่าจับตามองคือราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งถึงแม้จะเป็นกลุ่มเรียลดีมานด์แต่ก็เป็นกลุ่มที่มีภาระหนี้สินต่อครัวเรือนที่สูงด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามปัญหาหนี้สินต่อครัวเรือนน่าจะทยอยดีขึ้นเพราะปัญหาเรื่องหนี้สินจากรถยนต์คันแรกได้ทยอยหมดลง แต่ทั้งนี้กลุ่มกำลังซื้อดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบริษัทเพราะเป็นกลุ่มลูกค้าคนละเซ็กเมนต์กัน
"ภาพรวมตลาดคอนโดปีนี้น่าจะดีขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อนหรือใกล้เคียงกัน ปัจจัยที่เป็นกังวลคือเรื่องราคาที่ดินที่ปรับตัวสูงขึ้นจนกำลังซื้ออาจตามไม่ทัน เพราะเมื่อราคาที่ดินแพงขึ้น ผู้ประกอบการก็จะผลักภาระไปยังผู้บริโภคสะท้อนมายังราคาขาย แต่ยังมีความโชคดีที่ราคาค่าก่อสร้างยังไม่ขยับตามเพราะราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับต่ำ" ดร.ต่อศักดิ์ กล่าว
ผนึกพันธมิตรสร้างจุดแข็ง ดร.ต่อศักดิ์ กล่าวเสริมว่า การพัฒนาโครงการอสังหา ในยุคไทยแลนด์ 4.0 ว่า ผู้ประกอบการต้องมีความพร้อมในการปรับตัว ไม่สามารถอยู่นิ่งได้ ทั้งการปรับตัวในการพัฒนาสินค้าให้มีความทันสมัยต่อการเปลี่ยนแปลงของกระแสโลกในขณะนั้น การทำอสังหาในรูปแบบ อื่นๆ รวมถึงการปรับตัวในการจับมือกับพันธมิตรเพื่อพัฒนาเสริมจุดแข็งซึ่งกันและกัน ส่วนทางด้านภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้น ยังไม่ได้เห็นผลกระทบชัดเจนต่อผู้ประกอบการ เพราะยังไม่ได้มีการบังคับใช้ แต่หากปลายปีนี้มีการบังคับใช้จริง เจ้าของที่ดินก็คงจะมีการนำที่ดินออกมาขายมากขึ้นและสามารถเจรจาซื้อขายได้ง่ายขึ้น
ที่มา : หนังสือพิมพ์ทันหุ้น