สร้างต้นแบบคอนโดลีสโฮลด์

สำนักงานทรัพย์สินฯลุยเองปั้นที่ดินหลังสวน-สารสิน ขึ้นโครงการสาธรวิลเลจ โมเดลต้นแบบที่อยู่อาศัยครบวงจร ชูพื้นที่สีเขียวปอดธรรมชาติใจกลางเมือง ประหยัดพลังงานรักษ์ธรรมชาติ

สมรภูมิการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ครบวงจรใจกลางเมืองระดับไฮเอนด์ตั้งแต่ ถนนพระราม 4 ถนนวิทยุ ย่านหลังสวน ถนนสารสิน ถนนเพลินจิต หัวถนนสีลม มีการแข่งขันรุนแรงมากขึ้น โดยผู้ประกอบการรายใหญ่ต่างเข้าไปปักธง ทั้งกลุ่มนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ที่ผุดโครงการวัน แบงค็อกมูลค่าแสนล้าน กลุ่มเซ็นทรัลที่มีแผนทำโครงการมิกยูสซ์บริเวณที่ดินสถานทูตอังกฤษ กลุ่มดุสิตธานีผุดโครงการมิกยูสซ์บริเวณถนนสีลม

ขณะที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินในย่านดังกล่าว จากเดิมที่ปล่อยให้เช่าเพียงอย่างเดียวล่าสุดได้มีแนวคิดพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่และโรงแรมต้นแบบด้วยตัวเองในโครงการสินธรวิลเลจ

ทรัพย์สินฯปั้นต้นแบบ

โครงการตั้งบนพื้นที่ 56 ไร่ บนถนนหลังสวนตั้งแต่ซอยหลังสวน 2 ถึงถนนสารสิน และจากถนนหลังสวนถึงซอยต้นสน โดยมอบหมายให้บริษัท สยามสินธร จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกเป็นผู้ดำเนินการพัฒนาโครงการสินธร วิลเลจ (เดิมใช้ชื่อหลังสวน วิลเลจ) ให้เป็นต้นแบบ "โครงการที่พักอาศัยกลางใจเมือง ให้มีคุณภาพสูงในทุกมิติของการพัฒนาที่มุ่งยกระดับมาตรฐานการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เมืองไทย"

ทั้งนี้ ตามแผนโครงการสินธร วิลเลจ มีทั้งหมด 6 โครงการ รวม 11 อาคาร ประกอบด้วย คอนโดมิเนียม 4 อาคาร (ลีสโฮลด์ 30 ปี), เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ 3 อาคาร, โรงแรม 1 อาคาร, หอศิลป์-พิพิธภัณฑ์ศิลปะ 1 อาคาร, Walking Street 1 อาคาร และศูนย์สุขภาพ 1 อาคาร คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งโครงการภายในปี 2562

สินธรวิลเลจเด่นกลางเมือง

นายขจรเดช แสงสุพรรณ กรรมการบริหาร บริษัท สยามสินธรฯ เปิดเผยว่าโครงการสินธร วิลเลจ โดดเด่นด้วยสถานที่ตั้งใจกลางเมือง และมีความร่มรื่น ใกล้ทั้งสวนลุมพินี ย่านธุรกิจ ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล สถานทูต และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ รวมทั้งสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ด้วยแนวคิดการพัฒนาที่เน้นคุณภาพทั้งการอยู่อาศัย สภาพแวดล้อม และตัวอาคารมีมาตรฐานการออกแบบและก่อสร้างสูงสุด เลือกใช้วัสดุและอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูงทั้งยังถูกออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวที่เป็นปอดธรรมชาติใจกลางเมืองมากถึง 14 ไร่ (Super Green) รายล้อมพื้นที่โครงการ ทำให้ผู้อยู่อาศัยและชุมชนได้รับความโปร่ง โล่ง สบายท่ามกลางสวน

หนึ่งในโครงการนำร่องของโครงการสินธรวิลเลจที่ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา และมีผู้เข้าพักอาศัยแล้ว คือ "สินธร เรสซิเดนซ์" คอนโดมิ เนียมซูเปอร์ลักชัวรี ที่ประกอบไปด้วย 2 อาคาร สูง 35 ชั้น และ 10 ชั้น รวมทั้งหมด 202 ยูนิต ตั้งแต่ขนาด 35-345 ตารางเมตร

"โครงการสินธร เรสซิเดนซ์ราคาเฉลี่ยตารางเมตรละ 2.4 แสนบาทได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้า เนื่องจากเราได้มุ่งมั่นสร้างสรรค์โครงการที่มีคุณภาพสูงในทุกองค์ประกอบ อาทิเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม, ทำเลอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ บนถนนหลังสวนรายล้อมด้วยแหล่งธุรกิจและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจมากมาย ,มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน, ยกระดับคุณภาพชีวิตผ่านการออกแบบที่คำนึงถึงสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบายเป็นพิเศษตลอดจนสัมผัสคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง ซึ่งทำให้ปัจจุบันเรามียอดขายกว่า 75%  และได้ทยอยส่งมอบพร้อมมีลูกค้าเข้าอยู่แล้วหลายยูนิต"

โมเดลพัฒนาอสังหาฯไทย

สำหรับอาคารของสินธร เรสซิเดนซ์เป็นอาคาร Green Building ที่ออกแบบตามมาตรฐานLEED(Leadership in Energy and Environmental Design) จึงประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม เน้นการออกแบบที่คำนึงถึงพื้นที่สีเขียว พื้นที่ส่วนกลางค่อนข้างมากประมาณ 60% พื้นที่ขายแค่ 40%

ด้านการขายโครงการสินธร เรสซิเดนซ์ เป็นโครงการขายแบบให้เช่า (Leasehold) ระยะยาว 30 ปี และต่ออายุสัญญาเช่าได้อีก 30 ปีรวมทั้งหมด 60 ปี

"โจทย์ของบริษัทต้องการพัฒนาสินธร เรสซิเดนซ์ให้เป็นโครงการต้นแบบในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของเมืองไทย จึงต้องการสร้างทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบในทุกมิติ ทั้งทำเล ย่านหลัง สวนซึ่งถือเป็นทำเลทองของกรุงเทพฯ แนวคิดการพัฒนาโครงการอยู่สบาย สถานที่เงียบสงบและที่สำคัญเป็นราคาที่ลูกค้าจับต้องได้เฉลี่ยตารางเมตรละ 2.4 แสนบาท เทียบกับโครงการระดับเดียวกันในย่านใกล้เคียงบางแห่งเฉลี่ยตารางเมตรละกว่า 5 แสนบาท"

ราคาที่ดินพุ่งตร.ว.ละ2ล้าน

ราคาประเมินที่ดินในกรุงเทพฯของกรมธนารักษ์ สำหรับรอบบัญชี ปี 2559-2562 นั้น ถนนหลังสวน 5 แสนบาทต่อตารางวา, ถนนสารสิน 4 แสนบาทต่อตารางวา ส่วนถนนที่อยู่ในย่านใกล้เคียง เช่น ถนนวิทยุ ราคาประเมิน 5 แสนบาทต่อตารางวา และถนนเพลินจิต อยู่ที่ 9 แสนบาทต่อตารางวา

ด้านราคาซื้อขายในตลาดนั้น นายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดอร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแตนท์ จำกัด ผู้ชำนาญการประเมินสินทรัพย์ กล่าวว่าปัจจุบันราคาที่ดินบนถนนเพลินจิต, วิทยุ และหลังสวน เฉลี่ย 2 ล้านบาทต่อตารางวา ขณะที่ถนนสารสิน เฉลี่ย 1.5 ล้านบาทต่อตารางวา เนื่องจากเป็นที่ดินใจกลางเมือง แต่ที่ดินให้พัฒนาค่อนข้างน้อยทำให้ราคาค่อนข้างสูง

ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ