เพชรเกษม-บางแค ซื้ออยู่จริงคึก! อานิสงส์ต่อขยายรถไฟฟ้าสีน้ำเงิน
จากผลสำรวจ โดยพลัส พร็อพ- เพอร์ตี้ พบอานิสงส์จากรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินที่ขณะนี้ก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วกว่า 80% ส่งผลให้ทำเลฝั่งธนบุรีเติบโตครบทุกด้าน ประกอบกับความหนาแน่นของประชากรในพื้นที่ ตลาดคอนโดมิเนียมในย่านเพชรเกษมบางแค ที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายดังกล่าว เติบโตเพิ่มขึ้น และส่วนใหญ่เป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง
นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด บริษัทรับบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยผลวิจัยด้านที่อยู่อาศัยพบว่า ปัจจุบันโซนเพชรเกษม-บางแค เป็นทำเลหนึ่งที่น่าสนใจ นับจากแผนการพัฒนาโครงข่ายรถไฟฟ้าฝั่งธนบุรีมีความคืบหน้าไปมาก เห็นได้จากรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียวที่เปิดให้บริการแล้ว และจะมีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินทั้งเส้นทางหัวลำโพง-หลักสอง และบางซื่อ-ท่า พระ โดยทั้งสองเส้นทางมีการเชื่อมต่อกันที่สถานีท่าพระ ปัจจุบันทั้งสองเส้นทางมีการก่อสร้างไปได้มากกว่า 80% เส้นทางหัวลำโพง-หลักสอง คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในต้นปี 2562 ส่วนบางซื่อ-ท่าพระ จะเปิดให้บริการภายในปี 2563 ส่งผลให้ในอนาคตประชาชนในพื้นที่สามารถเดินทางเข้าเมืองได้ง่ายขึ้น ทั้งจากการมาเชื่อมต่อกับสายสีเขียวที่สถานีบางหว้าหรือเชื่อมสายสีน้ำเงินเดิมที่สถานีหัวลำโพง
โดยพื้นที่บริเวณกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันตกหรือธนบุรีในปัจจุบันมีถนนเส้นหลักคือเพชรเกษมซึ่งครอบคลุมพื้นที่ของกรุงเทพฯทั้งหมด 4 เขต ได้แก่ บางกอก ใหญ่, ภาษีเจริญ, บางแค และหนองแขม มีประชากรรวมทั้งสิ้นกว่า 550,000 คน และมีความหนาแน่นของประชากรต่อบ้านที่ 2.53 คน ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยของคนในกรุงเทพฯ ที่ 2.13 คน ซึ่งหมายความว่ายังมีความต้องการด้านที่อยู่อาศัยของคนในพื้นที่อยู่ ทำให้เกิดการพัฒนาที่อยู่อาศัยในรูปแบบของคอนโดมิเนียมเพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนกลุ่มนี้
"ปัจจุบันจำนวนอุปทานคอนโดฯ สูง High Rise บนถนนเพชรเกษมช่วงรถไฟฟ้าสายมีน้ำเงินมีจำนวน 5,161 ยูนิต ในขณะที่อุปสงค์อยู่ที่ 3,654 ยูนิต ซึ่งถือว่าเป็นยอดขายอยู่ที่ 71% โดยราคาเฉลี่ยอยู่ที่ตารางเมตรละ 89,000 บาท หรือรูปแบบ 1 ห้องนอน ราคาเฉลี่ย 2.7 ล้านบาทต่อยูนิต ซึ่งถือว่าต่ำกว่าโครงการที่อยู่ในช่วงปลายสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียว ตั้งแต่ บางหว้าถึงตลาดพลู ที่ขายกันอยู่ที่ยูนิตละ 3.2 ล้านบาท อยู่พอสมควร ทั้งๆ ที่ระยะทางห่างจากกันไม่มากนัก ดังนั้นเพชรเกษมถือว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพในการปรับตัวของราคาขึ้นไปอีกเมื่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายเริ่มให้บริการในอีก 2-3 ปีข้างหน้า" นายอนุกูล กล่าว
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาโครงการคอนโดมิเนียมบนถนนเพชรเกษมช่วงรถ ไฟฟ้าสายมีน้ำเงินที่อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าในระยะห่างไม่เกิน 200 เมตร เทียบกับโครงการที่อยู่ห่างจากรถไฟฟ้า พบว่าอัตราการตอบรับในปัจจุบันของโครงการที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้ามีการตอบรับสูงกว่า โดยโครงการที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าระยะทางประมาณ 200 เมตรอยู่ที่ 75% ในขณะที่โครงการที่อยู่ไกลจากรถไฟฟ้ามีอัตราตอบรับ 64% รวมไปถึงระดับราคาเฉลี่ย ที่โครงการที่อยู่ ติดกับรถไฟฟ้ามีราคาเฉลี่ยที่สูงกว่า โดยโครงการที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 92,000 บาท/ตารางเมตร ส่วนโครงการที่อยู่ห่างออกไปราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 84,000 บาท/ตารางเมตร
นอกจากนี้ ฝั่งธนบุรี ยังมีการท่องเที่ยวริมฝั่งแม่น้ำเชิงวัฒนธรรมที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ทำให้พื้นที่บริเวณที่ ไม่ไกลจากแม่น้ำเจ้าพระยามีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบโรงแรมเพิ่ม มากขึ้น ขณะที่คอนโดมิเนียมที่อยู่ในโซนใหม่ๆ เช่น เพชรเกษม ท่าพระ จรัญสนิทวงศ์ ก็มีความสะดวกด้านการเดินทางมากขึ้นสามารถเชื่อมต่อการคมนาคมหลากหลายช่องทาง และระดับราคาก็ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับราคาคอนโดมิเนียมที่ติดรถไฟฟ้าบริเวณในเมือง ส่วนทางด้านตลาดเช่ายังมีโอกาสที่น่าสนใจ โดยเฉพาะที่อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยหรือรถไฟฟ้ามีอัตราค่าเช่า 10,000-12,000 บาทต่อเดือน นายอนุกูล กล่าวในที่สุด
ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามธุรกิจ