พฤกษาพรีเมียมฟุ้งขายทะลุเป้าทั้งปีเกิน6พันล.-ไม่หวั่นสายสีม่วงซัปพลายล้น
พฤกษาฯ บุกตลาดปราบเซียนย่านรถไฟฟ้าสายสีม่วง เผยสต๊อกเหลือขายในตลาดกว่า 20,000 ยูนิต เดินหน้าเปิดตัว "แชปเตอร์วัน ชายน์ บางโพ" คอนโดฯนิยามใหม่ "พรีเมียมแมส" 615 ยูนิต มูลค่า 1,600 ล้านบาท เปิดขาย 2 วันกวาดยอดขายแล้ว 50%
นายประเสริฐ ดุลยสาธิต ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท- พรีเมียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง ในช่วง 5-6 ปี ที่ผ่านมาผู้ประกอบการโหมเปิดขายคอนโดมิเนียมจำนวนมาก ส่งผลให้มีสต๊อกเหลือขายในปัจจุบันมากเกือบ 20,000 ยูนิต หรือคิดเป็น 30% สินค้าที่เปิดขายทั้งหมด นับว่าเป็นทำเลที่มีสต๊อกเหลือขายในตลาดมากที่สุด รวมถึงแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการระบายสินค้าอีกราว 1-2 ปี
แม้ว่าทำเลดังกล่าวจะมีสินค้าเหลือขายในตลาดจำนวนมาก แต่บริษัทยังเชื่อมั่นว่ายังคงมีกำลังซื้อที่ต้องการความแตกต่างจากคอนโดมิเนียมทั่วไป จึงได้เปิดขายโครงการ "แชปเตอร์วัน ชายน์ บางโพ" คอนโดมิเนียมสูง 33 ชั้น จำนวน 615 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท ราคาขายเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท/ยูนิต หรือเฉลี่ย ตร.ม.ละ 85,000 บาท ซึ่งเปิดขายอย่างไม่เป็นทางการเมื่อวันวันที่ 6-7 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าสร้างยอดขายได้กว่า 50% หรือ 871 ล้านบาท ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย
"ทำเลย่านบางโพเป็นทำเลทองที่กำลังถูกจับตามองเป็นอย่างมาก ด้วยศักยภาพของทำเลตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยาและใกล้จุดเชื่อมต่อของรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย คือ MRT รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีบางโพ และ MRT รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีเกียกกาย ซึ่งมี ซัปพลายเหลืออยู่ในตลาดไม่มากนัก เนื่อง จากที่ดินในย่านนี้หายาก และมีราคาเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเข้าไปพัฒนาที่อยู่อาศัยและลงทุนการค้าขายเป็นจำนวนมากส่งผลให้ทำเลนี้กลายเป็นศูนย์ กลางธุรกิจแห่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต"
นอกจากนี้ "แชปเตอร์วัน ชายน์ บางโพ" ยังเป็นคอนโดฯนิยามใหม่ "พรีเมียมแมส" ที่เน้นการออกแบบที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ที่ไม่ได้ต้องการแค่คอนโดทั่วๆ ไป แต่เป็น Boutique Residence ที่สะท้อนรสนิยมและสร้างสุนทรียภาพในการใช้ชีวิตได้ทุกๆ วัน สามารถมองเห็นวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา
นายประเสริฐกล่าวต่อว่า สำหรับกลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-พรีเมียม ในปีนี้ ตั้งเป้าเปิด 6 โครงการ มูลค่า 9,900 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 5 โครงการมูลค่า 8,800 ล้านบาท และบ้านแนวราบแบรนด์ เดอะปาร์ม 1 โครงการมูลค่า 1,100 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 4,000 ล้านบาท ยอดรับรู้รายได้ 1,800 ล้านบาท ซึ่งจากความสำเร็จด้านยอดขายของ 2 โครงการได้แก่ รีเซิร์ฟ ทองหล่อ มูลค่า 1,700 ล้านบาท ที่สามารถปิดการขายได้ภายใน 2 สัปดาห์ และโครงการแชปเตอร์วัน ชายน์ บางโพ ที่คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในปีนี้ ทำให้บริษัทเชื่อว่าจะสามารถ สร้างยอดขายได้เกินว่าเป้าหมายที่กำหนด โดยคาดว่าทั้งปีจะสามารถสร้างยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ จำนวน 2,600 ล้านบาท
ที่มา : หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน 360 องศา