"คอลลิเออร์ส" ประเมินราคาที่ดินต่อตร.ว.ไม่สูงเท่า สถานทูตอังกฤษ

"แสนสิริ" จ่อร่วมประมูลซื้อที่ดินกว่า 7 ไร่ สถานทูตออสเตรเลีย บนถนนสาทร เช่นเดียวกับ "ศุภาลัย" ที่ประกาศตัวไปก่อนหน้านี้ ขณะ"พฤกษา" แจงอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ผุดโครงการพรีเมียม ก่อนตัดสินใจ ประมูล

นางสาววรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการทั่วไป บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง กรุ๊ป บริษัทร่วมทุนระหว่างกลุ่มบีทีเอส ผู้พัฒนาระบบขนส่งมวลชน และแสนสิริ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ยอมรับว่า แสนสิริ สนใจ เข้าร่วมประมูลซื้อที่ดินสถานทูตออสเตรเลีย โดยเป็น 1 ใน 10 ราย ของผู้ที่สนใจจะยื่นข้อเสนอ ที่ดินแปลงดังกล่าวตามที่ "เจแอลแอล" ที่ปรึกษาอสังหาฯซึ่งผู้เป็นตัวแทนในการจัดหาผู้ซื้อให้กับที่ดินดังกล่าวบนถนนสาทรออกมาให้ข้อมูลก่อนหน้านี้

ส่วนความชัดเจนว่าจะยื่นประมูลในนาม แสนสิริ หรือ บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง กรุ๊ป คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน พ.ค.นี้ เพื่อเผื่อเวลาสำหรับจัดเตรียมเอกสารสำหรับการประมูลให้ทันระยะเวลากำหนดภายในสิ้นเดือน มิ.ย.นี้

"บริษัทก็ได้ส่งทางทีมงาน ไปสำรวจพื้นที่แล้ว โดยการพัฒนาอสังหาฯมีความเป็นไปได้ทั้งคอนโดมิเนียม และอสังหาริมทรัพย์ผสมผสาน (มิกซ์ยูส)"

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทาง นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ออกมาเปิดเผยว่า สนใจประมูลที่ดินสถานทูตออสเตรเลียเช่นกัน โดยจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การประชุมคณะกรรมการบริษัทในช่วงต้นเดือน มิ.ย.นี้ ขณะที่ นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร และประธาน เจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการจะพัฒนาโครงการระดับพรีเมียมก่อนที่จะตัดสินใจเข้าร่วมประมูลที่ดินสถานทูตออสเตรเลีย

ด้านนายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนา บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ที่ปรึกษา อสังหาริมทรัพย์ กล่าวถึงทิศทางการประมูลซื้อที่ดินสถานทูตออสเตรเลีย ว่าที่ดินนี้เป็นอยู่ในทำเลดี มีศักยภาพ แต่อาจไม่ได้เป็นทำเลที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯเพราะไม่ได้ติดรถไฟฟ้า เมื่อเทียบกับที่ดินสถานทูตอังกฤษ หัวมุมถนนวิทยุเพลินจิต  จึงอาจจะทำให้ราคาประมูลซื้อที่ดินต่อตารางวาของที่ดินแปลงนี้ไม่พุ่งไปสูงกว่าที่ดินสถานทูตอังกฤษ ที่ หลายคนคาดการณ์กันไว้ว่าจะอยู่ที่ราคา 2 ล้านบาทต่อตารางวา

สำหรับศักยภาพที่ดินแปลงนี้มีโอกาสที่จะนำไปพัฒนาได้หลายรูปแบบ เช่น คอนโด เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ อาคารสำนักงาน แต่ด้วยพื้นที่ขนาดกว่า 7 ไร่ ก็ยังมีโอกาสพัฒนาในรูปแบบมิกซ์ยูสได้เช่นกัน"

นางสาววรางคณา ยังกล่าวถึงยอดขายของแสนสิริ ในช่วง 5 เดือนแรกว่า ทำยอดได้แล้วกว่า1หมื่นล้านบาท จากเป้าหมายยอดขายที่ตั้งไว้ทั้งปีอยู่ที่ 3.6 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้ารายได้แสนสิริ อยู่ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท ส่วนยอดขายที่รอรับรู้รายได้ (แบ็คล็อก) ปีนี้เฉพาะแสนสิริ มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท และบีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง กรุ๊ป อยู่ที่ 2,700 ล้านบาท

ส่วนโครงการร่วมทุนภายใต้ บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง กรุ๊ป ในปีนี้มีจะจำนวนรวมทั้งสิ้น 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1.2 หมื่นล้านบาท โดยเดอะ เบส เพชรเกษม เป็นโครงการร่วมทุนแรกของปีนี้ และที่เหลืออีก 3 โครงการจะทยอยเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบด้วย ทำเลสุขุมวิท สาทร และสีลม

ล่าสุด ได้เปิดตัวโครงการคอนโดฯ เดอะ เบส เพชรเกษม มูลค่าโครงการ 1,850 ล้านบาท จำนวน 640 ยูนิต โดยเป็นโครงการร่วมทุนที่ 9 ของบีทีเอส และแสนสิริ และถือเป็นโครงการร่วมทุนโครงการที่ 2 ภายใต้แบรนด์เดอะ เบส โดยโครงการนี้ตั้งอยู่บนทำเลเพชรเกษม แนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย หัวลำโพง-บางแค ที่จะเปิดให้บริการ ในปี 2562 ส่วนโครงการเดอะ เบส เพชรเกษม จะเริ่มสร้างในเดือน มิ.ย.นี้ และจะสร้างเสร็จในปี 2563

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ