"ทองมา"ประเมินความต้องการซื้อบ้านใน กทม.-ปริมณฑลกว่า 1 แสนหน่วย มูลค่าขาย 3.79 แสนล้านบาท หรือเติบโต 5% แจงเหตุไตรมาส 1 รายได้ลด เหตุอยู่ในช่วง ปรับพอร์ตธุรกิจ ยอดขายคอนโดฯไหลมาไม่ทัน ยันไม่ได้สะท้อนตลาดซบเซา ส่วนกลุ่มธุรกิจแวลู ยืนยันเปิด 66 โครงการตามเป้า มูลค่าเกือบ 60,000 ล้านบาท ส่วนกลุ่มธุรกิจกลุ่มพรีเมียม คาด ไตรมาส 2 ยอดโอนคอนโดฯไหลเข้าจำนวนมาก หนุนตัวเลขรายได้ดีขึ้น ยันเป็นผู้นำคอนโดฯระดับ 2-3 ล้านบาท และ 10-15 ล้านบาท

นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ (PSH) กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลในไตรมาส 1 ปี 60 ว่า ขนาดของตลาดเติบโตประมาณ 97,478 ล้านบาท เติบโต 13.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 59 และคาดว่าในปีนี้ มีประชากรที่มีความต้องการบ้านในกรุงเทพฯและปริมณฑลจำนวน 2.3 แสนคน และจำนวนที่อยู่อาศัยจะขายได้ 104,000 ยูนิต มูลค่าการขายประมาณ 379,000 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งโดยปกติมูลค่าโอนจะอยู่ประมาณ 3 แสนล้านบาทต่อปี ในปีนี้ คาดว่าตลาดคอนโดฯจะมีมูลค่าสูงถึง 188,500 ล้านบาท รองลงมาเป็นตลาดบ้านเดี่ยว 106,300 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์ 73,100 ล้านบาท

สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 1 ที่ออกมา บริษัททำยอดขายได้ 13,303 ล้านบาท เติบโต 35.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 59 ที่มีรายได้ 9,809 ล้านบาท จากยอดขายที่เติบโตเพิ่มสูงขึ้นมาจากการเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ 2 โครงการ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้า คือ เดอะทรี สุขุมวิท 71 มียอดขายแล้ว 61.5% และ เดอะรีเซิร์ฟ ทองหล่อ ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยปัจจุบันได้ปิดการขายแล้วทั้งโครงการ

ในส่วนของรายได้ในไตรมาสนี้ บริษัทสามารถทำรายได้ 8,072 ล้านบาท กำไรสุทธิสามารถทำได้ 681 ล้านบาท

"การปรับลดลงของรายได้ของพฤกษา ไม่ได้สะท้อนถึงภาพรวม แต่เราประเมินไว้อยู่แล้ว ผลประกอบการในไตรมาส 1 รายได้จะเติบโตในอัตราลดลง เนื่องจากอยู่ในช่วงปรับพอร์ตธุรกิจ รวมถึงรายได้จากการโอนโครงการคอนโดมิเนียมเข้ามาไม่มาก แต่คาดว่าตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป ตัวเลขจะปรับตัวดีขึ้น จะมีการโอนคอนโดฯ ล็อตใหญ่เข้ามาอีก"

นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท บมจ.พฤกษาฯ กล่าวว่า ในไตรมาส 1 กลุ่มธุรกิจแวลูเปิดโครงการใหม่ไปแล้ว 11 โครงการ และมีแผนเปิดโครงการใหม่อีก 55 โครงการ ตามแผนการเปิดโครงการใหม่ ในปีนี้ รวม 66 โครงการคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 59,300 ล้านบาท โดยจะเน้นหนักในไตรมาส 2 และ 3 รวม 42 โครงการ มูลค่าโครงการ 35,300 ล้านบาท

ณ สิ้นไตรมาส 1/60 บริษัทยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย (Active Projects) ทั้งหมดอยู่อีก 168 โครงการ มูลค่า 83,736 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมียอดรอรับรู้รายได้ (Backlog) ของกลุ่มธุรกิจแวลูอยู่ที่ 23,611 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้นจากสิ้นปี 59 อยู่ที่ 12.8%

อย่างไรก็ตาม ในประเด็นสถานการณ์ ตัวเลขการปฏิเสธสินเชื่อของสถาบันการเงินนั้น นายปิยะ กล่าวว่า ตัวเลขในไตรมาส 1 มีเพียง 6% ในขณะที่ภาพรวมในระบบมีประมาณ 14% ซึ่งตัวเลขของพฤกษาฯที่น้อย เนื่องจากยังไม่มีการนับรวมการขายโครงการคอนโดมิเนียม เนื่องจากในไตรมาสนี้ ยอดขายบริษัท 13,303 ล้านบาท เป็นส่วนของคอนโดฯประมาณ 6,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนนี้เป็นยอดขายล่วงหน้า 3 ปี ทำให้ตัวเลขปฏิเสธสินเชื่อไม่สะท้อนความเป็นจริง

ขณะที่นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท พรีเมียม บมจ.พฤกษา กล่าว ในปีนี้บริษัทฯ ใช้ Business Model ใหม่มาพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อตอบสนองกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น โดยเน้นรูปแบบความแปลกใหม่ เพื่อสร้างสีสันและความแตกต่างให้แก่วงการอสังหาริมทรัพย์ เห็นได้ชัดเจนจากการเปิดตัวคอนโดมิเนียม "เดอะรีเซิร์ฟ ทองหล่อ" ซึ่งเป็นโครงการระดับมาสเตอร์พีซโครงการแรกของ พฤกษา เรียลเอสเตท เพียงสองอาทิตย์สามารถปิดการขายได้ทั้งโครงการ มูลค่า 1,830 ล้านบาท

"คาดว่ายอดโอนโครงการคอนโดฯในไตรมาส 2 และต่อเนื่องไปถึงปี 62 จะเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 2 จะมาจากโครงการ เดอะทรี สุขุมวิท และโครงการ แชปเตอร์วัน ทั้งนี้ ในช่วงปลายปีจะมีการเปิดโครงการระดับพรีเมียม ทั้งโซน เอกมัย พญาไท และถนนประดิพัทธ์ สะพานควาย อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาภาพรวม จะพบว่า ตลาดคอนโดฯไตรมาส 1 มีการเติบโต 13-14% ซึ่งยอดขายกระจุกตัวอยู่ที่ผู้ประกอบการรายใหญ่ประมาณ 10 ราย ซึ่งจะพบว่ากลุ่มคอนโดฯ ราคา 10-15 ล้านบาท เติบโตมากสุดถึง 37% เทียบกับไตรมาส 1 ปี 59 ทั้งนี้ ในไตรมาสแรกปี 60 มูลค่าตลาดคอนโดฯอยู่ที่ 50,936 ล้านบาท คิดเป็น 52% ของตลาดที่อยู่อาศัยรวม โดย พฤกษา มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็นลำดับที่ 1 ที่ 12% มูลค่า 5,885 ล้านบาท เป็นผู้นำตลาดที่ระดับราคา 2-3 ล้านบาท และ 10-15 ล้านบาท จาก 2 โครงการ คือ The Reserve และ The Tree 71"

ล่าสุดบริษัทเตรียมเปิดโครงการ "แชปเตอร์ วัน ชายน์ บางโพ"อย่างเป็นทางการในวันที่ 27-28 พ.ค.นี้ หลังจากเปิดขายอย่างไม่เป็นทางการเพียง 1 สัปดาห์กวาดยอดขายไปแล้วกว่า 60% คิดเป็นมูลค่าเกือบ 1,000 ล้านบาท

นายทองมา ยังกล่าวถึงการเข้าประมูลที่ดินสถานทูตออสเตรเลียว่า ก็ต้องเร่งศึกษา เนื่องจากเป็นที่ดินแปลงใหญ่ แต่เรื่องนี้ ต้องสอบถามนายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ซึ่งทางนายประเสริฐ กล่าวว่า เป็นแปลงใหญ่มาก ซึ่งเราก็อยู่ในรายชื่อ เพียงแต่ต้องศึกษาให้ชัดเจนก่อน

ที่มา : หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน 360 องศา