ผวา'ภาษีที่ดินใหม่'ธุรกิจจดทะเบียนพุ่ง
Loading

ผวา'ภาษีที่ดินใหม่'ธุรกิจจดทะเบียนพุ่ง

วันที่ : 16 พฤษภาคม 2560
ผวา'ภาษีที่ดินใหม่'ธุรกิจจดทะเบียนพุ่ง

          ทุนจดทะเบียนธุรกิจเม.ย.พุ่งสูง 75% เหตุธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เร่งใช้ที่ดินว่างเปล่าหนีภาษีที่ดิน

          นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่าการจดทะเบียนธุรกิจเดือนเม.ย. 2560 ผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศ 4,783 ราย เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีทุนจดทะเบียน 2.18 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 75% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

          "เกิดจากปัจจัยบวกในเรื่อง ของนโยบายรัฐบาลที่จะมีการ เรียกเก็บภาษีที่ดินที่มิได้มีการใช้ประโยชน์ตาม พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและ สิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2560 ทำให้เอกชนใช้ประโยชน์ที่ดินมากขึ้น"

          การจดทะเบียนธุรกิจใหม่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ที่เกิดจากธุรกิจ โฮลดิ้ง ซึ่งเป็นธุรกิจขนาดใหญ่เข้ามา จดทะเบียนเกิน 1 พันล้านบาท มีจำนวน 4 ราย เป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 3 ราย และเป็นธุรกิจ เกี่ยวกับสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ 1 ราย ขณะที่ประเภทธุรกิจที่มีการ ประกอบธุรกิจใหม่สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 425 ราย รองลงมาธุรกิจโฮลดิ้ง จำนวน 362 ราย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 273 ราย ธุรกิจร้านขายปลีก เครื่องประดับ จำนวน 236 ราย และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 109 ราย ภาพรวมการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในช่วง 4 เดือน (ม.ค. - เม.ย. 2560 ) มีจำนวน 2.35 หมื่นราย เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน ของปีก่อน โดยมีทุนจดทะเบียน จัดตั้ง 9.19 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

          นางสาวบรรจงจิตต์ ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของการจดทะเบียนนิติบุคคลเลิกเดือน เม.ย. 2560 มีจำนวน 878 ราย ลดลง 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีทุนจดทะเบียนเลิก 3,952 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับ ช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้การจดทะเบียนเลิกช่วง 4 เดือนของ ปีนี้มีจำนวน 3,859 ราย ลดลง 14% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีทุนจดทะเบียนเลิก 1.30 หมื่นล้านบาท ลดลง 75% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

          "อีกปัจจัยบวกที่จะทำให้ยอดจดทะเบียนในปีนี้เพิ่มขึ้น คือ ความสะดวกในการจดทะเบียนทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งขณะนี้กรมฯ ได้หารือกับผู้แทนธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) โดยได้ชี้แจงความ คืบหน้าการปรับปรุงพัฒนาขั้นตอนการเริ่มต้นธุรกิจ ซึ่งสามารถลดทั้งขั้นตอนการจดทะเบียน ระยะเวลาการจดทะเบียน และต้นทุนการจดทะเบียน ลงได้ โดยสามารถลดขั้นตอนจากเดิม 5 ขั้นตอน ใช้เวลา 25.5 วัน เหลือเพียง 3 ขั้นตอนใช้เวลาเพียง 2 วัน และลดค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการจากเดิม 6,600 บาทเหลือเพียง 5,800 บาท และมั่นใจว่าจะส่งผลให้การจัดอันดับการเริ่มต้นธุรกิจของไทยที่จะมีการประกาศผลในเดือน ต.ค.นี้ ดีขึ้นจากปัจจุบัน ที่อยู่ในลำดับ 78 แน่นอน"

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ