อสังหาฯ ไทยเนื้อหอมธุรกิจจีนแห่ลงทุน
นายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดอร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแตนท์ จำกัด กล่าวในงานสัมมนาเรื่องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ชาวจีนในประเทศไทยว่า ชาวจีนนิยมมาลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในไทยเนื่องจากจีนมีนโยบายจำกัดในการซื้อที่อยู่อาศัย ในขณะที่เงื่อนไขการซื้อขายในไทยไม่ยุ่งยาก อาทิ สัดส่วนเงินดาวน์ที่จีนต้องไม่ต่ำกว่า 35% ขณะที่อัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าและสามารถคืนทุนได้เร็วในกรณีที่มีการเช่าอสังหาริมทรัพย์ สำหรับรูปแบบการลงทุนที่นักลงทุนชาวจีนสนใจจะมีทั้งรูปแบบการเช่า การร่วมมือและการขอสินเชื่อ โดยส่วนใหญ่กว่า 63% มักจะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ มี่ระดับราคา 5-10 ล้านบาท รองลงมาเป็นการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในระดับราคาประมาณ 2.5 ล้านบาท
นายวสันต์ กล่าวว่า สำหรับประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่นักลงทุนชาวจีนส่วนใหญ่ชอบลงทุน คือ คอนโดมิเนียม ในราคาประมาณ 100,000-150,000 บาทต่อตารางเมตร (ตร.ม.) ทั้งในกรุงเทพฯ ภูเก็ต หัวหินและพัทยา ซึ่งมีราคาถูกกว่าในเมืองใหญ่ๆ ของจีน อาทิ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจ ที่มีราคาเฉลี่ยประมาณ 150,000-200,000 บาทต่อตร.ม. นอกจากนี้แล้วพบว่าสิ่งที่นักลงทุนชอบคือ คอนโดมิเนียมในไทยจะขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ ทำให้การซื้อห้องชุดในไทยมีส่วนลดประมาณ 20-30% ต่างกับที่จีนที่จะต้องเสียค่าตกแต่งเพิ่ม ด้วยปัจจัยดังกล่าวข้างต้นทำให้ไทยติดใน 5 อันดับแรกที่นักลงทุนชาวจีนนิยมไปลงทุนมากที่สุด โดยจังหวัดที่นักลงทุนต่างให้ความสนใจเป็น อันดับต้นๆ ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ตและพัทยา
"เมื่อชาวจีนหันมาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในไทยมาก คาดว่าแนวโน้มหลังจากนี้ ผู้ประกอบการหรือนักลงทุนชาวจีนจะเริ่มเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น โดยการร่วมมือกับ ผู้ประกอบการไทย ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะค่าวัสดุก่อสร้างที่จะมีราคาถูกลงอย่างเห็นได้ชัด อย่างโครงการคอนโดมิเนียมบางโครงการที่กำลังเริ่มดำเนินการอยู่ในขณะนี้ พบว่ามีต้นทุนค่าก่อสร้างลดลงเหลือเพียง 8,000-10,000 บาทต่อตร.ม. จากเดิมมีต้นทุนค่าก่อสร้างประมาณ 13,000-15,000 ต่อตารางเมตร เนื่องจากผู้ประกอบการชาวจีนจะนำเข้าวัสดุก่อสร้างจากจีนทั้งหมด แต่ใช้แรงงานไทย ทำให้ต้นทุนค่าก่อสร้างลดลงอย่างชัดเจน" นายวสันต์กล่าว
ที่มา: หนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์