ออริจิ้น ผนึกพราวด์ฯรุกคอนโดระดับบน
สานเป้าอสังหาฯ ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์
"ออริจิ้น" ผนึก "พราวด์ เรสซิเดนซ์" ต่อยอด คอนโดระดับบน เจาะลูกค้าต่างชาติ ขยายอสังหาฯครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ ดันแบ็กล็อก รวม 2.4 หมื่นล้าน รอรับรู้รายได้ 3 ปี
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้เจรจาความร่วมมือกับบริษัท พราวด์ เรสซิเดนซ์ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการระดับลักซัวรี PARK24 โดยการเข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัท พราวด์ เรสซิเดนซ์ จำนวน 10 ล้านหุ้น เป็นมูลค่า 4,000 ล้านบาท ทั้งนี้การผนึกกำลังทางธุรกิจดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทสามารถขยายเข้าสู่ตลาดคอนโดมิเนียมระดับบน ซึ่งเป็นจุดแข็งของพราวด์ฯ รวมทั้งการเจาะตลาดผู้บริโภค ต่างชาติ และจะทำให้ยอดขายรอโอน (backlog) รวมเพิ่มขึ้นเป็น 2.4 หมื่นล้านบาท อยู่ในระดับท็อป 5 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยมาจากออริจิ้น จำนวน 1.4 หมื่นล้านบาท และจากโครงการ PARK 24 จำนวน 1 หมื่น ล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้ภายใน 3 ปี
นอกจากนี้ คาดว่าสัดส่วนลูกค้า ชาวต่างชาติของบริษัทจะเพิ่มเป็น 25% หรือประมาณ 6,000 ล้านบาท ของยอดขายรอโอนที่ 2.4 หมื่นล้านบาท จากเดิมมีสัดส่วน 10% โดยหลักๆมาจากลูกค้าโครงการ PARK24 ที่เป็นชาวต่างชาติคิดเป็นยอดขายประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นฐานให้บริษัท บุกตลาดต่างประเทศในกลุ่มโครงการพรีเมียมได้มากขึ้น
ทั้งนี้ กระบวนการซื้อหุ้นจะต้องขออนุมัติ จากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 12 ก.ค.นี้ หลังจากนั้นคาดว่ากระบวนการซื้อขายจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ก.ค.นี้ หรือ หากปิดงบบัญชีไม่ทันอาจเลื่อนมาวันที่ 2 ต.ค.2560 ซึ่งบริษัทจะรับรู้รายได้ทันที โดยบริษัทได้จัดตั้งธนาคารกสิกรไทย เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ทั้งนี้ หลังจากกระบวนการซื้อหุ้นเรียบร้อยแล้ว บริษัทจะมีการพิจารณา ปรับเป้ารายได้ใหม่ จากเดิมบริษัทตั้งเป้ารายได้ 6,000 ล้านบาท เติบโต 30% และยอดขายตั้งเป้าไว้ 1.3 หมื่นล้านบาท แต่หลังเข้าซื้อบริษัท พราวด์ เรสซิเดนซ์ จำกัด ซึ่งจะส่งผลให้ผลประกอบการปีนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่ หลังรับรู้รายได้จากการเข้าซื้อกิจการดังกล่าว โดยปี 2559 ที่บริษัทมี รายได้รวม 3,199 ล้านบาท และ กำไรสุทธิ อยู่ที่ 637 ล้านบาท "บริษัทมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาคอนโดมิเนียมเพื่อเจาะตลาดพรีเมียมแมส ขณะที่ พราวด์ เรสซิเดนซ์มีความเชี่ยวชาญด้านการดีไซน์ การพัฒนาคอนโดมิเนียม ระดับไฮเอนด์ รวมถึงการเจาะตลาดผู้บริโภคชาวต่างชาติ เราจึงมองเห็นโอกาสร่วมกันและตัดสินใจเป็นพันธมิตรกัน ตอบโจทย์ผู้บริโภคครบทุกเซ็กเมนต์"
ด้านนายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พราวด์ เรสซิเดนซ์ จำกัด กล่าวว่า มองว่าการมาผนึกกำลังทางธุรกิจกันครั้งนี จะทำให้บริษัทขยายตัวทางธุรกิจไปด้วยกัน เพราะว่าตลาดอสังหาฯ เมืองไทยยังขยายตัวได้อีกมา เพียงแต่ พราวด์ เรสซิเดนซ์ ไม่สามารถจับโอกาสด้วยตัวเองได้ทั้งหมด "จะให้ไปทำโครงการรูปแบบเดียวกับออริจิ้นทำอยู่ เราก็ทำไม่เป็น ส่วนออริจิ้น จะมาทำโครงการแบบพราวด์ เรสซิเดนซ์ ทำก็ไม่ได้เหมือนกัน"
ดั้งนั้นการที่ทั้งสองบริษัทมารวมกัน ทำให้สามารถเติบโตได้ทั้งสองตลาด
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ