เพิ่มน้ำหนักหุ้นอสังหาพบไตรมาส2มีสัญญาณฟื้นตัว
Loading

เพิ่มน้ำหนักหุ้นอสังหาพบไตรมาส2มีสัญญาณฟื้นตัว

วันที่ : 9 มิถุนายน 2560
เพิ่มน้ำหนักหุ้นอสังหาพบไตรมาส2มีสัญญาณฟื้นตัว

    หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจได้สำรวจ พบว่า ขณะนี้นักวิเคราะห์ได้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้นอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากพบว่ามีสัญญาณการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมในไตรมาส 2 ของปีนี้

          ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่าดัชนีหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ปรับตัวขึ้นมากว่า 10.40% ส่วนหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากสุด 5 อันดับแรกประกอบด้วย

  1. หุ้นออริจิ้น (ORI) 77.50%
  2. หุ้นยูนิเวนเจอร์ (UV) เพิ่มขึ้น 38.40%
  3. หุ้นคิงไวกรุ๊ป (KWG) เพิ่มขึ้น 37.96%
  4. หุ้นแสนสิริ (SIRI) เพิ่มขึ้น 27.71%
  5. หุ้นเซ็นทรัลพัฒนา (CPN) เพิ่มขึ้น 25.55%

ขณะที่ภาพรวมผลประกอบการงวดไตรมาส 1 ปี 2560 มีรายได้รวม88,609.33 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 11,807.34 ล้านบาท  ล่าสุด บล.บัวหลวง ระบุว่า ตอนนี้ถึงเวลาที่จะกลับมาให้ความสนใจกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อีกครั้ง และมีการปรับคำแนะนำของกลุ่มจาก NEUTRAL เป็น OVERWEIGHT  โดยมีปัจจัยหนุนประกอบด้วย ข่าวร้ายได้สะท้อนไปในราคาหุ้นมากแล้ว จากกำไรในไตรมาสแรกปีนี้ ที่เป็นจุดที่แย่ที่สุดสำหรับปี และฝ่ายวิจัยคาดจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวของกำไรในไตรมาส 2 ปี 2560 และเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากงวดปีก่อนในไตรมาส 3 รวมถึงยังมีการประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลหลังจากงบไตรมาส 2 ปีนี้ประกาศ

          ขณะที่ Presales กลับมาน่าตื่นเต้นอีกครั้ง โดยยอดการเปิดโครงการใหม่จะเร่งตัวขึ้นกว่า 2 เท่าในไตรมาส 2 ปี 2560 เป็น 7.7 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 82% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรก ซึ่งอยู่ที่ 3.9 หมื่นล้านบาท และปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้ รวมทั้งกำไรจากการดำเนินงาน (Earnings visibility) เริ่มปรับตัวสูงขึ้น โดยงานในมือรอรับรู้รายได้ (backlog) ณ ตอนนี้สามารถการันตีรายได้สำหรับปี 2560 ได้ถึง 50% เพิ่มขึ้นจาก 31% ช่วงปลายปี 2559 ขณะที่มูลค่าหุ้นกลุ่มอสังหาริมรัพย์ (Valuation) ยังอยู่ระดับต่ำ โดยส่วนใหญ่ซื้อขายกันอยู่ที่พีอีเรโช 8.4 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดอยู่ที่ 10.9 เท่า

          อย่างไรก็ตาม โดยรวมฝ่ายวิจัยได้เลือก 2 ธีมในการลงทุนคือ กลุ่มผู้นำการเติบโตของผลการดำเนินงาน ประกอบด้วยหุ้นบริษัทอนันดาฯ (ANAN), หุ้นเอพี (AP), หุ้นศุภาลัย (SPALI) และ หุ้นแสนสิริ (SIRI) และกลุ่ม Laggard สำหรับเก็งกำไร ประกอบด้วย หุ้นแอลพีเอ็น (LPN) และ หุ้นพฤกษา (PSH)

          บล.ทรีนีตี้ ประเมินว่า ผลกระทบประเด็นร่างพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเมื่อคลังยืนเกณฑ์เก็บภาษีที่ดิน ควรรอดูรายละเอียดของภาษีที่แน่ชัดกว่านี้ เพื่อประกอบการตัดสินใจ อย่างไรก็ดี ในส่วนของอัตราเพดานภาษี 4 ประเภทยังคงมีรายละเอียดตามเดิม ซึ่งฝ่ายวิจัยก็ยังคงมีมุมมองเดิมว่าสำหรับระยะยาว มองว่าจะเป็นผลดีต่อบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากคาดว่าจะมีการนำที่ดินที่ไม่ได้ประกอบกิจการมาขายในตลาดเพิ่มมากขึ้น และช่วยชะลอการเพิ่มขึ้นของราคาที่ดิน แต่อย่างไรก็ดี พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะต้องรอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)  พิจารณา และคาดว่าจะสามารถบังคับใช้ได้ในปี 2562

          บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส ประเมินว่า บริษัท ORI จะมีกำไรโตสุดในกลุ่มถึงปี 2562 หากดีลการซื้อหุ้นจากบริษัทพราวด์ เรสซิเดนซ์ สำเร็จ จะได้นำคอนโดพาร์ค 24 มาจัดทำงบรวม ก็จะมีอัตราการเติบโตกำไรสูงสุดในกลุ่มที่อยู่อาศัย ตั้งแต่ปี 2560 ถึงปี 2562 ด้วย CAGR ปี 2559-2562 เฉลี่ยที่ 73% และได้ปรับประมาณการกำไรปีนี้ 32% และปีหน้าเพิ่มสูงถึง 73% หลังได้ PARK 24 และกำไรไตรมาส 3 หรือ 4 โตสูงเป็นพิเศษ

          ทั้งนี้ PARK 24 เป็นคอนโดที่มีมูลค่าสูงสุดในไทย 1.7 หมื่นล้านบาทที่ดินเป็น Free Hold ที่เหลือน้อยในซอยสุขุมวิท 24 มีชาวญี่ปุ่นอาศัยอยู่มาก ใกล้ห้างสรรพสินค้าเอ็มโพเรียม และรถไฟฟ้าบีทีเอส ปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้สูงถึง 1.09 หมื่นล้านบาท

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ