JSP ขยายไลน์ ผุดโครงการ ทาวน์โฮมสไตล์อังกฤษ 3 โครงการ 3 ทำเล มูลค่ารวม  2,287  ล้านบาท โชว์โครงการ “เจซิตี้ ศรีราชา-อัสสัมชัญ” เปิดพรีเซลปลายเดือน พ.ค. กวาดยอดขายทะลุ 200 ล้านบาท มั่นใจได้รับการตอบรับดี

นายไพโรจน์ วัฒนวโรดม รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจ.เอส.พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JSP เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2/60 บริษัทเดินหน้าขยายไลน์โครงการเพิ่ม ซึ่งมีแผนเปิดตัวโครงการซิกเนเจอร์รูปแบบใหม่ในลักษณะอิงลิช ทาวน์โฮม จำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 2,287 ล้านบาท

โดยปักหมุด 3 ทำเลธุรกิจ คือ บริเวณรอบกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่  สุขุมวิท-แพรกษา, ติวานนท์-บางกะดี และศรีราชา-อัสสัมชัญ เพื่อตอบรับความต้องการด้านที่อยู่อาศัยของลูกค้ากลุ่มคนยุคใหม่ในราคาแบบเป็นมิตร ภายใต้คอนเซ็ปต์ มนต์เสน่ห์แบบฉบับสไตล์เมืองอังกฤษ สะท้อนรสนิยมผู้อยู่อาศัยในแบบเรียบหรู มีระดับ พร้อมให้ความรู้สึกอบอุ่นผ่อนคลาย เสมือนพักผ่อนในสถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศได้ทุกวัน

ทั้งนี้ 3 โครงการ ดังกล่าว ได้แก่  อิงลิช ทาวน์โฮม โครงการเจ ซิตี้ สุขุมวิท-แพรกษา จำนวน 352 ยูนิต มูลค่าโครงการ 752 ล้านบาท, อิงลิช ทาวน์โฮม โครงการเจ ซิตี้ ติวานนท์-บางกะดี จำนวน 265 ยูนิต มูลค่าโครงการ 825 ล้านบาท และอิงลิช ทาวน์โฮม โครงการเจ ซิตี้ ศรีราชา-อัสสัมชัญ จำนวน 277 ยูนิต มูลค่าโครงการ 710 ล้านบาท

สำหรับ โครงการเจซิตี้ ศรีราชา-อัสสัมชัญ บริษัทได้เปิดพรีเซล ช่วงปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา โดยสามารถทำยอดขายได้ทะลุ 200 ล้านบาท ซึ่งเกินเป้าที่ตั้งไว้ และสามารถปิดเฟสแรกได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้บริษัทมั่นใจว่าการแตกไลน์สินค้า เป็นรูปแบบอิงลิช ทาวน์โฮม ในครั้งนี้จะได้รับความนิยมและการตอบรับที่ดีจากลูกค้าแน่นอน

ขณะที่รูปแบบบ้าน จะเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น เนื้อที่ 17-18 ตารางวา (ตรว.) พื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ ประมาณ 101.69 ตารางเมตร (ตรม.) มี 4ห้องนอน 2ห้องน้ำ และ1ที่จอดรถ โดยเริ่มโครงการแรกที่ สุขุมวิท-แพรกษา ซึ่งคาดจะเห็นบ้านตัวอย่างได้ในช่วงเดือน ก.ค.60 นี้  ส่วนในฝั่งทำเล ศรีราชา-อัสสัมชัญ และติวานนท์-บางกะดี คาดจะเห็นบ้านตัวอย่างภายช่วงในเดือน ก.ย. 60

“บริษัทยังคงเน้นจับกลุ่มเซ็กเมนต์ที่มีกำลังซื้อระดับกลาง-ล่าง ในราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท เพราะถือเป็นฐานกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ ซึ่งสินค้าประเภททาวน์โฮมยังคงได้รับความนิยมอย่างสูงในภาคตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวราบ โดยเฉพาะโครงการที่อยู่ในทำเลย่านทำเลธุรกิจ มีการคมนาคมที่สะดวก ประกอบกับบ้านมีคุณภาพระดับมาตรฐาน และราคาที่สามารถจับต้องได้ จึงยิ่งทำให้เป็นที่ต้องการของลูกค้าสูงกว่าโครงการประเภทอื่นเป็นพิเศษ” นายไพโรจน์ กล่าว

นายไพโรจน์ กล่าวอีกว่า โครงการดังกล่าว มีจุดเด่นในด้านการก่อสร้างและออกแบบ โดยจะใช้เทคโนโลยีระบบ Precast ในการก่อสร้าง ช่วยให้บ้านมีความแข็งแรงกว่าบ้านก่ออิฐ 3 เท่า ผนังเรียบเนียนไม่เป็นคลื่น พร้อมบ้านได้ระดับมาตรฐานคุณภาพเดียวกันทุกหลัง

ส่วนงานออกแบบได้แรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมอังกฤษ โดยเลือกใช้คอนเซ็ปต์การออกแบบบ้านให้มีกลิ่นอายความเป็นเนื้อแท้ของประเทศอังกฤษ แนว British Urban ซึ่งเป็นศิลปะรูปแบบใหม่ที่ผสมผสานความสง่างามและความอบอุ่น เข้าไว้ด้วยกัน ส่วนภายในเน้นความหรูหราทันสมัย โปร่งโล่งสบาย พร้อมเพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยระบบรักษาความปลอดภัย เข้าออกด้วยระบบ Easy Pass, กล้อง CCTV, ยามรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ยังเติมมาตรฐานบ้านด้วย J ID (J Intelligent Design) มาตรฐานของบ้านชาญฉลาด ใน 4 ด้าน คือด้านiFunction ออกแบบให้พื้นที่ทุกตารางนิ้วในบ้านสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ พร้อมกับด้าน iEnergy การออกแบบ และการเลือกใช้วัสดุเพื่อให้ประหยัดพลังงาน เช่น LED ทั้งหลัง แผ่นฟลอยด์สะท้อนความร้อน ช่องระบายอากาศใต้ฝ้า มีช่องแสงขนาดใหญ่เพื่อให้บ้านสว่างขึ้นโดยไม่ต้องเปิดไฟฟ้าในเวลากลางวัน พร้อมการออกแบบให้ตัวบ้านสามารถถ่ายเทอากาศได้ดี

ขณะที่ด้าน iColor การเลือกใช้สีกลุ่มสีโทนเย็นทำให้ดูสบายตา และมีคุณสมบัติสีช่วยสะท้อนความร้อน รวมทั้งด้าน iConnect การออกแบบที่คำนึงถึงความสะดวกสบายของลูกบ้าน โดยมีพื้นที่ Club House และCo-working Space สไตล์อังกฤษเพิ่มเติม เพื่อเชื่อมทุกความสัมพันธ์ในครอบครัวร่วมกัน

ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น