เมเจอร์ฯ แตกแบรนด์คอนโดเจาะตลาดแมส
"เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์" ขยายตลาดแมส ปั้นแบรนด์ใหม่ "เมทริส" เจาะลูกค้ากลุ่มมิลเลนเนียล ผุด 3 โครงการ 3 ทำเล มูลค่า 4,500 ล้าน เริ่มพรีเซลล์เดือน ส.ค. มั่นใจยอดขาย 60% มองภาพรวมตลาดอสังหาฯ ครึ่งปีหลังยังดี ชี้ต่างชาติสนใจลงทุนต่อเนื่อง
นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ กรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัว แบรนด์ใหม่ เมทริส (METRIS) เพื่อเจาะเซกเมนท์ใหม่ที่ไม่เคยทำมาก่อน คือ ตลาดแมส โดยเฉพาะผู้ซื้อในกลุ่มมิลเลนเนียลวัย 25-35 ปี
เมทริสวางตำแหน่งให้เป็นแบรนด์ที่คุ้มค่าคุ้มราคา เน้นทำเลสะดวกต่อการเดินทาง อยู่ใกล้โครงการไฟฟ้าทั้งในปัจจุบันและที่จะเปิดในอนาคต โดยจะเริ่มจากการเปิดตัว คอนโด ไฮไรส์ 30 ชั้น 3 โครงการ ที่ ลาดพร้าว, พัฒนาการ และพระราม 9-รามคำแหง มูลค่ารวมกว่า 4,500 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 แบบ คือ แบบ 1 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้น 30 ตร.ม. แบบ2 ห้องนอน ขนาด 40-45 ตร.ม. และแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 50 -55 ตร.ม. ราคาขาย 9 หมื่นบาท-1.2 แสนบาทต่อ ตร.ม. หรือเริ่มต้นยูนิตละ 2.8 ล้านบาท เริ่มเปิด พรีเซลพร้อมกันปลายเดือน ส.ค.- ก.ย.ตั้งเป้า ยอดขาย 60% และคาดว่าจะทำได้ถึง 100% เมื่อโครงการสร้างแล้วเสร็จในปี 2563
"รูปแบบห้อง ออกแบบตามแนวคิดไร้กาลเวลา (timeless) เน้นความทันสมัยและคลาสสิค แบบมิด-เซ็นจูรี่ โมเดิร์น ทั้งนี้ในบางทำเล เช่น พระราม9-รามคำแหง จะนำเสนอในรูปแบบโครงการมิกซ์ยูส ระหว่างคอนโดและอาคารสำนักงาน" ก่อนหน้านี้ เมเจอร์ฯได้พัฒนาคอนโดกว่า 30 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 5 หมื่นล้านบาท โดยตั้งชื่อแบรนด์แตกต่างกันตามกลุ่มลูกค้า และทำเล
นางสาวเพชรลดากล่าวว่า สำหรับ ภาพรวมของสต็อกสร้างเสร็จพร้อมขายที่อยู่ในมือขณะนี้ มีมูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท ส่วนแบ็คล็อกหรือยอดขายที่รอรับรู้รายได้ในปีนี้ ประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท ส่วนงบลงทุนสำหรับซื้อที่ดินในช่วงครึ่งปีหลังเตรียมไว้ 2,000-3,000 ล้านบาท รองรับการพัฒนาโครงการในปี 2561-2562
สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาฯ ในช่วงครึ่งปีหลัง ประเมินว่าจะมีทิศทางที่ดี และมีนักลงทุนต่างชาติสนใจเข้ามาซื้อ เพื่อลงทุนต่อเนื่อง ทั้งซื้อเพื่อปล่อยเช่า หรือ ขายต่อ นอกจากนี้ ยังมีรูปแบบร่วมลงทุน กับพันธมิตรนักลงทุนหรือดีเวลลอปเปอร์ในไทย
"ราคาอสังหาฯ ในไทยยังดึงดูดต่างชาติได้มาก ราคาไม่สูงเมื่อเทียบกับฮ่องกง และสิงคโปร์ สำหรับเมเจอร์ฯ เองก็มีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาเจรจาหลายรายเช่นกัน จึงประเมินว่าตลาดอสังหาฯ โดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ถ้าหากไม่มีปัจจัยภายนอกที่คาดไม่ถึงข้ามากระทบตลาด เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานของไทยยังแข็งแกร่ง"