บีแลนด์พลิกโฉมรีเทล เซ็นทรัลเจอศึกหนัก
Loading

บีแลนด์พลิกโฉมรีเทล เซ็นทรัลเจอศึกหนัก

วันที่ : 10 กรกฎาคม 2560
บีแลนด์พลิกโฉมรีเทล เซ็นทรัลเจอศึกหนัก

หลังจากชิมลางรุกตลาดรีเทล เปิดตัว "บีไฮฟ์ ไลฟ์สไตล์" ในเมืองทองธานี ล่าสุด บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) เดินหน้าแผนยกเครื่องโครงการค้าปลีกครั้งใหญ่ ผุดอีก 2 โปรเจกต์ "เดอะพอร์ทอล" และ "คอสโม บาซาร์" พลิกโฉมตลาดนัดและอัปเกรดร้านค้าทั้งหมดเข้าสู่อาคารหรูระดับไฮเอนด์ตามมาสเตอร์แพลนแผนสร้างเมืองที่ครบสมบูรณ์ที่สุด

ด้านหนึ่งเปิดกลยุทธ์สร้างการจับจ่ายของประชากรกว่า 200,000 คน และกลุ่มไมซ์ (MICE) หรือกลุ่มประชุมสัมมนาที่เดินเข้าออกในเมืองทองธานีมากกว่า 10-15 ล้านคนต่อปี

อีกด้านหนึ่งเร่งต่อยอดสู่โครงการมิกซ์ยูสริมทะเลสาบอีก 700 ไร่ ซึ่งถือเป็นที่ดิน "สันใน" ราคาแพงที่สุดในเมืองทองธานี ซึ่งเฉพาะแผนการลงทุนระยะสั้น 3 ปี ตั้งแต่ปี 2560-2562 บางกอกแลนด์มีโครงการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง ทั้งอาคารสำนักงาน โรงแรม โรงภาพยนตร์ และสวนน้ำ

กุลวดี จินตวร ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโครงการ บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ "บีแลนด์" และผู้อำนวยการบริหาร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า มาสเตอร์แพลนของเมืองทองธานี ตั้งเป้าสร้างเมืองที่ครบสมบูรณ์ โดยสร้างความเจริญ ความสะดวกสบาย และระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการทั้งหมด รองรับประชากรทั้งกลุ่ม บ้านเดี่ยวจำนวนมากกว่า 2,000 หน่วย ซึ่งเป็นกลุ่มกำลังซื้อสูง กลุ่มป๊อปปูล่าคอนโดมิเนียมทั้ง 27 อาคาร จำนวน 80,000-100,000 คน และกลุ่มประชุมสัมมนา (ไมซ์) ทั้งนักท่องเที่ยว ผู้เข้าร่วมประชุมสัมมนา ซึ่งรวมถึงผู้ติดตามอีก 10 ล้านคนต่อปี

"เราไม่ต้องหวังพึ่งใคร เรามีประชากรที่ต้องให้บริการและสร้างการ จับจ่าย ก่อนหน้านี้ คนเมืองทองอยากชอปปิ้งต้องไปเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ อยากไปดูหนังต้องออกไปข้างนอก หากเราสามารถสร้างการจับจ่ายของคนเมืองทองธานีทั้งหมด มูลค่ามหาศาล เพราะจำนวนประชากรของเมืองทองธานีไม่ใช่น้อย ใหญ่พอๆ กับเทศบาลเมืองโคราชด้วย" กุลวดีกล่าว

ปัจจุบันบางกอกแลนด์มีการลงทุนสร้างรีเทลโปรเจกต์รวม 3 แบรนด์ เริ่มจาก "บีไฮฟ์ ไลฟ์สไตล์มอลล์" ซึ่งเปิดให้บริการช่วงปลายปี 2557 รูปแบบ Neighborhood Mall พื้นที่ไม่ใหญ่ มีเพียง 2 ชั้น โดยมีแม็กเน็ตหลัก คือ ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ขนาด 1,000 ตร.ม. ร้านอาหารแบรนด์ต่างๆ ร้านกาแฟ ร้านเสริมสวย ฟิตเนส โยคะ มีที่จอดรถประมาณ 600 คัน เน้นรองรับประชากรกลุ่มบ้านเดี่ยวในเมืองทองธานีต่อเนื่องไปถึงถนนแจ้งวัฒนะ กลุ่มลูกค้าระดับบีบวกขึ้นไป กำลังซื้อสูง

ต้องถือว่าบีไฮฟ์เป็นโครงการจุดประกายให้บางกอกแลนด์เห็น ศักยภาพและโอกาสทางการตลาด เนื่องจากยอดลูกค้าและทราฟฟิกเติบโตต่อเนื่อง ที่สำคัญยังมีความต้องการจากกลุ่มเป้าหมายอื่นๆ อีกจำนวนมากในเมืองทองธานี

ต้นปี 2560 บางกอกแลนด์ลุยโครงการ "เดอะพอร์ทอล" ไลฟ์สไตล์มอลล์แห่งที่ 2  เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายที่มาชมคอนเสิร์ตและงานแสดงต่างๆ เพราะเดิมลูกค้าส่วนใหญ่ต้องเตรียมอาหารมาเองหรือเลือกซื้อเฉพาะอาหารฟาสต์ฟูด 1-2 ราย โดยสร้างโครงการเดอะพอร์ทอลด้านหน้าและสร้างทางเชื่อมต่อกับอิมแพ็ค อารีน่าและอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เพื่อดึงกลุ่มลูกค้าเข้า ร้านอาหารแบรนด์ต่างๆ ในชั้น 1 หรือเข้าฟู้ดคอร์ท ชั้น 3 นอกจากนี้ยังมี ร้านสะดวกซื้อและเพิ่มพื้นที่รองรับงานประชุม งานกิจกรรมต่างๆ บริเวณ ชั้น 4 ด้วย

ด้านรีเทลโปรเจกต์ล่าสุด "คอสโมบาซาร์" ซึ่งถือเป็นจุดพลิกโฉมตลาดนัดและศูนย์อาหารครั้งใหญ่ของเมืองทองธานี โดยรื้อพื้นที่ตลาดนัดและตลาดเปิดท้ายรูปแบบเดิมทั้งหมด ย้ายเข้าสู่อาคารหรูระดับไฮเอนด์ เพื่อรองรับประชากรกลุ่มป๊อปปูล่าคอนโดและกลุ่มพนักงานออฟฟิศใน "คอสโมออฟฟิศพาร์ค" ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานแห่งใหม่ของเมืองทองธานี รวมถึงบริษัทและหน่วยงานใกล้เคียงอีกจำนวนมาก

ไม่ว่าจะเป็นธนาคารกสิกรไทย สำนักบริการของทรูคอร์ปอเรชั่น กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และมหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งจะเข้ามาเปิดแคมปัสแห่งใหม่ "ซิตี้แคมปัส" ในเดือนสิงหาคมนี้ และมีแผนขยายอาคารการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่องบนเนื้อที่กว่า 10 ไร่

กุลวดีกล่าวว่า คอสโมออฟฟิศพาร์คจะเป็นแหล่งคนทำงานใหม่ของเมืองทองธานี เนื่องจากอัตราค่าเช่าไม่สูงมาก เฉลี่ย 500-600 บาทต่อ ตร.ม. เทียบกับอาคารสำนักงานใจกลางเมืองเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 1,000-2,000 บาทต่อ ตร.ม. และพื้นที่ต่อชั้นมีขนาดใหญ่ 1,000 ตร.ม. โดยคาดว่าหน่วยงานต่างๆ จะเริ่มย้ายเข้าสู่พื้นที่ประมาณเดือนตุลาคมนี้

ทั้งนี้ คอสโมบาซาร์ถือเป็นจุดขายหลักของคอสโมออฟฟิศพาร์ค เพราะเป็นอาคารจอดรถที่เมืองทองธานีขยายรองรับกลุ่มพนักงานออฟฟิศ พื้นที่รวม 76,000 ตร.ม. และสามารถจอดรถได้ถึง 2,200 คัน ตั้งแต่ชั้น 3-9 ส่วนชั้น 2 เปิดพื้นที่ Transportation Hub จุดจอดรถตู้โดยสารทั้งหมดในเมืองทองธานี

สำหรับโซนค้าปลีกอยู่บริเวณชั้น 1 ของโครงการ พื้นที่ 8,000 ตร.ม. เน้นร้านอาหาร ฟู้ดคอร์ท และร้านค้าต่างๆ รวมประมาณ 200 ร้าน เพื่อสร้างทราฟฟิกการจับจ่าย เพราะกลุ่มพนักงานออฟฟิศในคอสโมออฟฟิศพาร์ค และกลุ่มประชากรในป๊อปปูล่าคอนโดต้องเดินทางไปทำงานด้วยรถตู้โดยสาร จำนวนคนเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 5,000 คนต่อวันจะหมุนเวียนเข้ามาใช้บริการใน คอสโมบาซาร์โดยอัตโนมัติ

ขณะเดียวกัน ตามแผนลงทุนเฟส 2 บางกอกแลนด์เตรียมก่อสร้าง โรงภาพยนตร์และกำลังเจรจาค่ายซูเปอร์มาร์เกตรายใหญ่ เพื่อเปิดซูเปอร์ มาร์เกตขนาดใหญ่ พื้นที่มากกว่า 1,000 ตร.ม. จากปัจจุบันภายในเมืองทองธานีมีกลุ่มซูเปอร์มาร์เกต 2 รายใหญ่ คือ เทสโก้โลตัส และท็อปส์

"ทั้ง 3 แบรนด์ไม่ได้แข่งกัน บีไฮฟ์รองรับประชากรกลุ่มบ้านเดี่ยว เดอะพอร์ทอลจับกลุ่มนักท่องเที่ยว คนดูคอนเสิร์ต ชมงานแสดง ส่วนคอสโมบาซาร์เน้นกลุ่มพนักงานออฟฟิศ แต่เราจะพยายามสร้างแม็กเน็ตเฉพาะของแต่ละแบรนด์ เช่น ถ้าต้องการทานอาหารร้าน After You ต้องมาที่บีไฮฟ์เท่านั้น เพื่อหาโอกาสหมุนเวียนกลุ่มลูกค้ากัน หรือท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ตมีให้บริการในบีไฮฟ์ ส่วนท็อปส์เดลี่เปิดในคอสโมบาซาร์"

ขณะที่การยกเครื่องร้านค้า ร้านอาหารและแผงตลาดนัดเข้ามาอยู่ในอาคารหรูติดแอร์อย่างคอสโมบาซาร์ เพื่อยกระดับการชอปปิ้งที่ไม่ต่างจากการเดินห้างสรรพสินค้าด้วย

ก่อนหน้านี้ ดูเหมือนว่า กลุ่มเซ็นทรัลเริ่มมองเห็นผลกระทบจากการรุกธุรกิจค้าปลีกของบางกอกแลนด์ ซึ่งมีทั้งงานลดราคาสินค้ารายการใหญ่ งานแสดงสินค้าและผุดโครงการค้าปลีกต่างๆ ทำให้เซ็นทรัลเร่งจับตาและ ปรับตัวรับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ล่าสุดขยายพื้นที่และปรับโฉมศูนย์อาหารในศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ ภายใต้แบรนด์ "ฟู้ดพาทิโอ" คอนเซ็ปต์ใหม่ Modern Home Cooking จับกลุ่มครอบครัวและวัยทำงานรุ่นใหม่ย่านแจ้งวัฒนะ

ที่สำคัญ บางกอกแลนด์กำลังเร่งเครื่องเติมเต็ม "เมืองทองธานี" สไตล์ "มิกซ์ยูส" และเปิดเส้นทางรถไฟฟ้าดึงคนเข้าสู่เมืองโฉมใหม่ เปลี่ยนภาพลักษณ์จากตลาดระดับล่างสู่ตลาดระดับบน ตลาดพรีเมียม ดึง Spending ที่เคยไหลทะลักสู่ห้างสรรพสินค้าด้านนอกกลับมาทั้งหมด

จังหวะนี้ ยักษ์ค้าปลีกอย่าง "เซ็นทรัล" อยู่นิ่งไม่ได้แน่

 
ที่มา : ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ