ฟื้นอสังหาชะอำ-หัวหิน ชาญอิสสระฯเร่งปลุกตลาดหลังกำลังซื้อคอนโดตากอากาศซึม
ชาญอิสสระฯ ชี้ตลาดชะอำ-หัวหินรอเวลาฟื้นตัว ช่วง 1 ปีไร้ผู้ประกอบการเปิดตัวโครงการใหม่
นายดิฐวัฒน์ อิสสระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ร่วมอิสสระ ในเครือบริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ เปิดเผยว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาโครงการคอนโดมิเนียมในชะอำ-หัวหิน เปิดตัวโครงการใหม่ค่อนข้างน้อยจากก่อนหน้ามีอุปทานคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการขายก่อนหน้านั้นมีสินค้าทุกเซ็กเมนต์ตั้งแต่ระดับราคา 5 หมื่น-3 แสนบาท/ตร.ม. ซึ่งโครงการที่พัฒนาแล้วไม่ติดทะเลนั้นยังยูนิตมีเหลือขายค่อนข้างมากที่พัฒนาช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา
"ที่ดินติดทะเลในชะอำ-หัวหินเริ่มหายาก แต่ความต้องการของคนยังมีอยู่จำนวนมาก โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มมีเงินต้องการโครงการติดทะเลหรือใกล้กับทะเลมากๆ ต่างจากกลุ่มลูกค้าต่างชาติ โครงการอาจจะไม่ต้องอยู่ติดทะเล แต่สามารถเดินทางไปทะเลได้จะเป็นที่ต้องการ" นายดิฐวัฒน์ กล่าว
ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทได้ซื้อที่ดินบริเวณชะอำเพิ่มขึ้นอีก 20 ไร่ โดยจะนำที่ดินจำนวน 10 ไร่บริเวณด้านหน้าของโครงการมาพัฒนาเป็นพื้นที่ค้าปลีก ปั๊มน้ำมัน จุดแวะพักที่สวยงามเพื่อดึงดูดคนมาใช้บริการ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการได้ในปี 2561 คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1 ปี
ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการขายโครงการทิวทะเลเอสเตท ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมก่อสร้างแล้วเสร็จ ประกอบด้วยโครงการบ้านทิวทะเล อความารีน จำนวน 270 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.9-40 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขาย 95% บ้านทิวทะเลบลูแซฟไฟร์ จำนวน 421 ยูนิต ราคา 2.9-21 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,920 ล้านบาท มียอดขาย 70% และบลู จำนวน 491 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 45% และอยู่ระหว่างก่อสร้างโรงแรมบาบาบีช คลับ หัวหิน จำนวน 18 ยูนิต บริเวณด้านหน้าชายหาด และโครงการพูลวิลล่า หรู บาบาบีช คลับ เรสซิเดนซ์ จำนวน 11 ยูนิต บนพื้นที่ 2 ไร่เศษ ทั้งสองโครงการมีมูลค่า 1,700 ล้านบาท
นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดคอนโดมิเนียมต่างจังหวัดโดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวยังคงชะลอตัวต่อเนื่อง สวนทางกับตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ทั้งในชะอำ หัวหิน พัทยา ขณะที่อัตราการขายไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นมากนัก ซึ่งผู้ประกอบการพยายามกระตุ้นตลาดด้วยการจัดแคมเปญทางการตลาด