'เอพี'กางแผนรุกคอนโด ครึ่งหลังส่งแบรนด์'ไลฟ์'ผุด2โครงการ1.5หมื่นล.
เอพี ส่งแบรนด์ "ไลฟ์" บุกตลาดคอนโดฯครึ่งหลังปี 60 เดินหน้าเปิด 2 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านบาท หวังดันยอดขายคอนโดฯโตตามเป้า 12,400 ล้านบาท ล่าสุดเตรียมเปิดขาย ไลฟ์ วัน ไวร์เลส ถนนวิทยุ มูลค่า 6,400 ล้านบาท
นายวิทการ จันทวิมลรองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP เปิดเผยถึงแผนการลงทุนในช่วงครึ่งหลังปี 2560 ว่า บริษัทเตรียมเปิดตัวคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่ารวม 15,400 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ ไลฟ์ วัน ไวร์เลส บนถนนวิทยุ อยู่ตรงข้ามโรงแรมปาร์คนายเลิศ มูลค่าโครงการ 6,400 ล้านบาท และโครงการไลฟ์ อโศกพระราม 9 มูลค่าโครงการ 9,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับกลุ่มบริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ปฯ โดยก่อนหน้านี้เปิดขายคอนโดฯไปแล้ว 1 โครงการคือ ไลฟ์ ลาดพร้าว มูลค่าโครงการ 7,600 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ด้วยยอดขายกว่า 80%
ทั้งนี้ โครงการ ไลฟ์ วัน ไวร์เลส เป็นคอนโดฯสูง 43 ชั้น จำนวน 1,344 หน่วย ราคาเริ่มต้น 4.9 ล้านบาท หรือเริ่มต้น 170,000 บาทต่อตารางเมตร โดยบริษัทเตรียมเปิดให้จองซื้อผ่านเว็บไซต์ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2560 จำนวน 114 หน่วย และจะเปิดพรีเซลอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ คาดว่าโครงการจะก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมส่งมอบในปี 2563
ขณะที่ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในพื้นที่วิทยุหลังสวน-เพลินจิต-ชิดลม โครงการส่วนใหญ่เกิดจากการพัฒนาโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาด ด้วยข้อจำกัดในการครอบครองและต้นทุนที่ดินที่ดีดตัวสูงขึ้นในทุกๆ ปี ทำให้การพัฒนาโครงการที่พักอาศัยในย่านดังกล่าว โดยเฉพาะทำเลที่มีทางเข้า-ออกติดถนนเส้นหลักเป็นไปได้ยาก ซึ่งจากการสำรวจในพื้นที่ดังกล่าว พบว่า มีสินค้าคงเหลือเพียง 998 หน่วย หรือคิดเป็น 30% ของจำนวนหน่วยที่เปิดตัวทั้งหมด โดยเป็นโครงการที่มีระดับราคา 1.5-2 แสนบาทต่อตารางเมตร เหลือขาย 331 หน่วย, ระดับราคา 2-3 แสนบาทต่อตารางเมตร เหลือขาย 520 หน่วย และราคามากกว่า 3 แสนบาทต่อหน่วย เหลือขาย 147 หน่วย
สำหรับโครงการ ไลฟ์ อโศกพระราม 9 มีมูลค่าโครงการกว่า 9,000 ล้านบาท ทั้งหมด 2,248 หน่วย ราคาขายเริ่มต้น 110,000 บาทต่อตารางเมตร คาดว่าจะเปิดขายในเดือนกันยายนนี้ ทั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะนำทั้ง 2 โครงการไปโรดโชว์ขายให้กับลูกค้าต่างชาติ ได้แก่ ฮ่องกง ไต้หวันและญี่ปุ่น
ด้านกลยุทธ์การตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทได้มีการจัดโปรโมชันและแคมเปญต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการจัดโปรโมชันของแต่ละโครงการผ่านสำนักงานขาย เพื่อกระตุ้นให้คนสนใจซื้อ โดยบริษัทมองว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้ผู้ประกอบการอสังหาริม ทรัพย์ทุกรายต่างอัดโปรโมชันและเร่งทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างมาก เพราะปีนี้มีระยะเวลาในการขายเหลือเพียง 5 เดือน เนื่องจากในเดือนตุลาคมเป็นเดือนที่จะต้องงดเว้นกิจกรรมต่างๆ ทำให้ทุกคนจะต้องเร่งการทำการตลาดขึ้นมาเร็วขึ้นกว่าปกติที่จะอยู่ในช่วงไตรมาส 4
ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ของโครงการคอนโดมิเนียม 3.02 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น Backlog ของโครงการคอนโดมิเนียมที่บริษัทพัฒนาเอง 6,500 ล้านบาท และ Backlog ของโครงการคอนโดมิเนียมร่วมทุนกับมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (MEC) จำนวน 23,700 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ 5,900 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ไปจนถึงปี 2564 โดยในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปี 2561 จะมีการโอนโครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จใหม่ คือ โครงการ ริทึ่ม รางน้ำ มูลค่า 2,400 ล้านบาท และในช่วงปี 2561 จะมีโครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จใหม่เตรียมโอนอีก 2 โครงการ คือ โครงการไลฟ์ อโศก มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท และโครงการ ไลฟ์ ปิ่นเกล้า มูลค่า 3,100 ล้านบาท
ทั้งนี้ในปี 2561 จะมีการโอนคอนโดมิเนียมใน Backlog ประมาณ 9,700 ล้านบาท ส่วนงบซื้อที่ดินในปีนี้บริษัทใช้ซื้อที่ดินไปแล้ว 5,000 ล้านบาท จากงบซื้อที่ดินที่ตั้งไว้ 8,000 ล้านบาทซึ่งคาดว่าจะใช้ครบทั้งหมด โดยบริษัทยังมองหาซื้อที่ดินในกรุงเทพฯเป็นหลักและยังไม่มีแผนการพัฒนาโครงการในต่างจังหวัด
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ