คอนโดฯชะอำ-หัวหินชะลอ โครงการรัฐปลุกไม่ขึ้น ผู้ประกอบการเลื่อนเปิดขายใหม่
Loading

คอนโดฯชะอำ-หัวหินชะลอ โครงการรัฐปลุกไม่ขึ้น ผู้ประกอบการเลื่อนเปิดขายใหม่

วันที่ : 17 สิงหาคม 2560
คอนโดฯชะอำ-หัวหินชะลอ โครงการรัฐปลุกไม่ขึ้น ผู้ประกอบการเลื่อนเปิดขายใหม่

คอลลิเออร์ส เผยผลสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยชะอำ หัวหิน ปราณบุรี ครึ่งแรกปี 2560 ชี้ตลาดยังชะลอตัวต่อเนื่อง แม้จะมีปัจจัยบวกจากโครงการภาครัฐที่เริ่มดำเนินการก่อสร้าง เหตุการท่องเที่ยวที่ยังไม่ฟื้นตัว ความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังไม่กลับคืน

นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากการสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยในชะอำ, หัวหิน และปราณบุรี รวมทั้งตลาดคอนโดมิเนียมในพัทยา ในช่วงครึ่งแรกปี 2560 พบว่าตลาดที่อยู่อาศัยในชะอำ หัวหิน และปราณบุรี มีการชะลอตัวลงมาตั้งแต่ปี 2555 โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมที่เดิมขายปีละมากกว่า 9,000 หน่วย แต่ปัจจุบันลดจำนวนลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากยังมีหน่วยเหลือขายในตลาดจำนวนมาก

โดยคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในช่วงครึ่งแรกปี 2560 อยู่ที่ประมาณ 390 หน่วย ลดลงจากช่วงครึ่งหลังปี 2559 ประมาณ 42% ซึ่งมีคอนโดมิเนียมเพียง 2 โครงการเท่านั้นที่เปิดขายในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เพราะผู้ประกอบการหลายรายเลือกชะลอการเปิดขายโครงการใหม่ ในช่วงที่ตลาดชะลอตัวและเลือกที่จะขายหน่วยที่สร้างเสร็จแล้วก่อน

ผู้ประกอบการโครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างแล้วเสร็จในชะอำ หัวหิน และปราณบุรี พยายามกระตุ้นให้ผู้ซื้อเข้ามาโอนกรรมสิทธิ์หน่วยที่ซื้อไป แต่ผู้ซื้อบางส่วนไม่มาโอนกรรมสิทธิ์ เนื่องจากพวกเขาเป็นนักเก็งกำไรที่ต้องการลงทุนในระยะสั้นและส่วนใหญ่ไม่มีความพร้อมในการโอนกรรมสิทธิ์ เพราะว่าภาวะการเงินของพวกเขาต่ำกว่าที่ทางธนาคารกำหนด ดังนั้น คอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จแล้วจำนวนมากจึงยังเหลือขายอยู่ในตลาดและค่อยๆ ดูดซับในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาในปี 2560 โครงการที่สร้างเสร็จแล้วบางโครงการซึ่งอยู่ในทำเลดี มีการออกแบบและรูปแบบโครงการที่น่าสนใจยังคงเป็นที่สนใจของผู้ซื้อ อัตราการขายเฉลี่ยอยู่ที่ 79%

ด้านตลาดบ้านจัดสรรก็ยังอยู่ในสภาวะทรงตัวเช่นกัน โดยมีบ้านจัดสรรเปิดขายใหม่ลดลงต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งมีเพียงแค่ 11 หน่วยเท่านั้นที่เปิดขายในครึ่งแรกปี 2560 และทั้งหมดอยู่ในพื้นที่หัวหินฝั่งภูเขา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีโครงการบ้านจัดสรรเปิดขายมากที่สุดในพื้นที่ชะอำ หัวหิน และปราณบุรี สำหรับอัตราการขายเฉลี่ยยังคงใกล้เคียงกับช่วงสิ้นปี 2559 ด้วยอัตราการขายเฉลี่ยประมาณ 78%

ทั้งนี้ โครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่บางโครงการ เช่น รถไฟความเร็วสูง จากกรุงเทพฯ-หัวหิน และโครงการรถไฟรางคู่จากกรุงเทพฯ ส่งผลให้ราคาที่ดินปรับเพิ่มขึ้นและมีผลต่อราคาที่อยู่อาศัยในอนาคตแน่นอน แม้ว่าโครงการเหล่านี้จะยังไม่มีความเคลื่อนไหวมากนักก็ตามในปัจจุบัน

"เมืองท่องเที่ยวชายทะเลทั่วประเทศไทยพบกับช่วงเวลายากลำบาก เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งมีผลโดยตรงต่อความเชื่อมั่นและกำลังซื้อของคนไทย บ้านและคอนโดมิเนียมในเมืองชายทะเลไม่ใช่ตัวเลือกแรกของผู้ซื้อหลายราย เพราะว่าอสังหา ริมทรัพย์ในเมืองท่องเที่ยวนั้นเป็นการซื้อ เพื่อเป็นบ้านพักผ่อนในช่วงวันหยุดหรือบ้านหลังที่สอง ดังนั้นตลาดที่อยู่อาศัยในเมืองท่องเที่ยวชายทะเล จึงมีการขยายตัวช้าในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา"

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ