ดัน ธอส.เคหะฯ ผุดบ้านประชารัฐ
โต๊ะข่าวการเงิน
รัฐบาลมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าโครงการพีพีพีบ้านประชารัฐอย่างเต็มที่ พร้อมเปิดกว้างให้ นักลงทุนต่างชาติและผู้ประกอบการเอกชนเข้าร่วมได้ หวังช่วยประชาชนที่มาลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย 11 ล้านรายได้บ้านราคาถูกก่อน
ทั้งนี้ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และการเคหะแห่งชาติ ไปสรุปแนวทางการจัดทำบ้านประชารัฐสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางถึงรายได้ต่ำ ภายใน 6 เดือน เนื่องจากที่ผ่านมาได้สั่งการให้กระทรวงการคลังดำเนินการ แต่ไม่สามารถทำได้เร็ว เพราะติดปัญหาหลายอย่าง
"เรื่องนี้เป็นนโยบายสำคัญของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้ผู้มีรายได้น้อยมีบ้านเป็นของตัวเอง แต่โครงการยังมีความล่าช้าอยู่มาก" สมคิด กล่าว
สำหรับโครงการบ้านประชารัฐ ธอส.กับการเคหะฯ นั้น เป็นการคิดใหม่และใช้เวลาไม่นาน โดยใช้ฐานข้อมูลจากผู้ที่มีรายได้น้อยที่มาลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ 11 ล้านราย ในการพิจารณาเรื่องรายได้ที่สามารถผ่อนชำระได้ กำหนดรูปแบบได้ทั้งแบบเช่าและแบบซื้อ โดยให้สถาบันการเงินปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน ส่วนพื้นที่ที่ใช้ในการพัฒนาโครงการ สามารถใช้ที่ราชพัสดุกรมธนารักษ์ ที่ดินของการเคหะ และที่ดินของเอกชนได้ตามความเหมาะสม
นอกจากนี้ ในการร่วมทุนกับเอกชนที่สนใจจะใช้รูปแบบการร่วมลงทุนแบบพีพีพี ไม่จำกัดเฉพาะนักลงทุนไทย แต่นักลงทุนต่างชาติก็มาลงทุนได้ เช่น จีน หากต้นทุนการผลิตไม่สูงมาก จะช่วยให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถเป็นเจ้าของได้ แต่จะต้องมีคุณภาพ
สมคิด กล่าวว่า บ้านประชารัฐจะเปิดให้สิทธิผู้ที่มาลงทะเบียนผู้มี รายได้น้อยก่อน โดยอิงจากรายได้ เช่น กลุ่มที่มีรายได้ต่ำกว่า 1 แสนบาท/ปี ก็จะซื้อบ้านได้ราคาหนึ่ง
ส่วนที่มีรายได้ต่ำกว่า 3 หมื่นบาท/ปี ซึ่งต่ำกว่าเส้นยากจนนั้น อาจจะต้องทำโครงการให้มีความเหมาะสม เช่น เป็นรูปแบบการเช่า ส่วนราคาเป็นเท่าไรขึ้นอยู่ในแต่ละโครงการและพื้นที่ แต่ต้องให้ผู้ที่มีรายได้น้อยมีที่อยู่อาศัยก่อน
ด้าน ฉัตรชัย ศิริไล กรรมการ ผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า ธอส.พร้อมร่วมโครงการพีพีพีบ้านประชารัฐ โดยได้เตรียมเสนอวงเงินสินเชื่อเบื้องต้น 1 หมื่นล้านบาท ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ หรืออาจใช้วิธีการเช่าอยู่ไปจนกว่าจะมีรายได้พอยื่นขอสินเชื่อ และเตรียมทรัพย์สินรอการขายหรือเอ็นพีแอล ราคาพิเศษพร้อมเงื่อนไขเข้าอยู่ได้ทันทีไม่ต้องจ่ายค่าประกันการเข้าอาศัย 1.5% และจะยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนบ้านให้เช่นเดียวกับทางกรมบังคับคดีที่แจ้งว่า พร้อมยกเว้นค่าธรรมเนียมให้คนลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยที่ต้องการซื้อทรัพย์ราคาไม่เกิน 5 แสนบาทจากกรมบังคับคดี
ธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการ การเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า สำหรับราคาบ้านประชารัฐที่เหมาะสมสำหรับโครงการนี้ควรจะมีราคา 4-5 แสนบาท ซึ่งขณะนี้มีนวัตกรรมการก่อสร้างแบบใหม่ที่ทำได้รวดเร็วในราคาที่ไม่สูง ซึ่งคาดว่ากรณีที่เป็นบ้านเช่าควรมีราคาเช่าไม่เกิน 1,000-1,500 บาท/เดือน และกรณีที่ผ่อนก็ควรมีภาระค่าผ่อนประมาณ 2,000 บาท/เดือน