รองซีอีโอ ณุศาศิริ เผยแนวการบริหารธุรกิจ มุ่งเน้นนโยบายโครงการในเชิงการท่องเที่ยวและสุขภาพ ไม่เน้นการพัฒนาโครงการ เพื่อการพักอาศัยอย่างเดียว พร้อมเตรียมจำหน่ายที่ดินในพอร์ตที่ไม่สอดรับธุรกิจในภูเก็ต ศรีราชา เชียงใหม่ กรุงเทพฯ รวมมูลค่าสูงถึง 3,000-4,000 ล้านบาท หวังนำเงินไปเคลียร์หนี้ให้หมด 3,000 ล้านบาท ในปีนี้ คัด 5 โครงการระดับพรีเมียมจัดกิจการเอาใจนักลงทุน

นางศิริญา เทพเจริญ รอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ " NUSA" กล่าวถึงแนวทางธุรกิจในปี 2561 ว่า บริษัทยังไม่มีการลงทุนใหม่ๆ แต่จะมุ่งพัฒนาและบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อ การลงทุนและที่อยู่อาศัย ซึ่งยังคงมุ่งในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยควบคู่กับศูนย์สุขภาพครบวงจร ทั้งบ้านพักอาศัย คอนโดมิเนียม โรงแรม รีสอร์ต และศูนย์สุขภาพแบบองค์รวม เพื่อรองรับเทรนด์การท่องเที่ยวของโลก และแนวโน้มไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการบนที่ดินขนาดใหญ่บริเวณ เขาใหญ่เนื้อที่ 1,000 ไร่ และทำเลพัทยา เนื้อที่ 300 ไร่ ซึ่งจะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในระยะเวลาประมาณ 3 ปีจากนี้

นอกจากนี้มีแผนจำหน่ายที่ดิน ที่ไม่ได้อยู่ในแผนนโยบายการพัฒนาเป็นโครงการที่อยู่อาศัยควบคู่กับศูนย์สุขภาพ ใน 5 ทำเล ได้แก่ กรุงเทพฯ, อำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี ใกล้กับเซ็นทรัลศรีราชา, จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดเชียงใหม่ ให้กับนักลงทุน ซึ่งแต่ละแห่งขนาดที่ดินประมาณ 10-20 ไร่ มูลค่าที่ดินรวม 3,000-4,000 ล้านบาท โดยจะนำรายได้จากการขายที่ดินไป ชำระหนี้ที่มีอยู่ในปัจจุบัน 2,000-3,000 ล้านบาท

"เรากำลังเจรจาอยู่หลายรายทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น แปลงศรีราชาจะอยู่ใกล้ๆ กับโครงการที่เรามีอยู่ เป็นแปลงใหญ่ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท คาดหวังว่า ทุกแปลงจะจบในปีนี้และนำรายได้ไปเคลียร์หนี้ได้หมด"

สำหรับแผนการขายในปีนี้ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการในช่วงไตรมาสแรก ผ่านแคมเปญภายใต้ชื่อ "The Constella- tion Legacy" นำ 5 โครงการระดับพรีเมียมทั้งนี้เพื่อการลงทุนและเพื่ออยู่อาศัยให้ผลตอบแทนสูงสุด 48% ส่วนลด สูงสุด 1 ล้านบาท เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีงานเปิดตัว Nusa One Premium Point อีกด้วย โดยโครงการที่นำมาจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมเพื่อเร่งปิดการขายในช่วงต้นปีนี้ ได้แก่ โครงการ Movenpick Residences Ekkamai Bangkok ปัจจุบันในเฟสแรก เหลือ 30 ยูนิต มูลค่าขาย 400 ล้านบาท, โครงการ ณุศา สเตท ทาวเวอร์ เหลือ 40 ยูนิต ราคา 5-8 ล้านบาท และมีห้องเพนเฮ้าส์ขนาดพื้นที่ 994 ตร.ม.มูลค่าขาย 140 ล้านบาท

โครงการ ณุศา มายด์ โอโซน- เขาใหญ่ ราคาขายเริ่มต้น 16.3 ล้านบาท, โครงการ กรีนเนอร์รี่ แอท ณุศาศิริ ซิตี้ พระราม 2 ราคาขายเริ่ม 17.9 ล้านบาท และโครงการ ณุศา ชีวานี่-พัทยา บ้านเพื่อสุขภาพโครงการแรกในภาคตะวันออก พร้อมศูนย์การแพทย์ระดับไฮเอนด์ในโครงการ ราคาขายเริ่มต้น 11.9 ล้านบาท โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-8 เม.ย.นี้ ณ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม ชั้น เอ็ม คาดว่าจากการจัดงานครั้งนี้ จะทำยอดขายได้200-300 ล้านบาท ซึ่งจะมีผลต่อตัวเลขในงบไตรมาส 2 ปัจจุบัน บริษัทมีสต๊อกรอการขายคิดเป็นมูลค่า 4,000 ล้านบาท