เตรียมตัวอย่างไรดี ถ้าอยากซื้อบ้านช่วงโควิด -19

วันที่ : 16 พฤศจิกายน 2564

ท่ามกลางสถานการณ์โควิด -19 ที่ยังไม่คลี่คลาย ถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่ซ่อนอยู่ในวิกฤตสำหรับคนที่อยากมีบ้าน เพราะภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้มีการจัดโปรโมชั่นต่าง ๆ มากมายเพื่อกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อได้ง่ายมากขึ้น ประกอบกับมาตรการรัฐที่ช่วยเรื่องลดค่าโอนและค่าจดจำนอง จึงทำให้การซื้อบ้านในช่วงนี้นั้นมีภาระค่าใช้จ่ายน้อยลง แต่อย่างไรก็ตามการตัดสินใจซื้ออสังหาฯ ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโดในช่วงโควิดนี้ ก็ยังเป็นสิ่งที่ควรเตรียมตัวให้ดีเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง โดยมีแนวทางสำคัญในการเตรียมพร้อมก่อนตัดสินใจซื้อ ดังต่อไปนี้

ตรวจความพร้อมของสถานะการเงินให้ดี

การเห็นโปรโมชั่นอยู่ฟรี แถมฟรีเฟอร์นิเจอร์ ให้ส่วนลดมหาศาล มีส่วนลดเงินสด ฯลฯ อาจทำให้เรารู้สึกว่าการตัดสินใจซื้อบ้านในช่วงนี้เป็นสิ่งที่คุ้มค่า และไม่ควรพลาดโอกาสไป แต่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดอยู่ที่เราพร้อมจะผ่อนไหวหรือไม่ต่างหาก เพราะต่อให้ได้บ้านหรือคอนโดราคาถูกกว่าปกติแค่ไหน ได้โปรโมชั่นพิเศษกว่าปกติเพียงใด ถ้ากำลังในการผ่อนเราไม่ไหว หรือยังมีหนี้สินอื่น ๆ ที่ต้องแบกรับรายเดือนอยู่มาก การซื้อบ้านในช่วงนี้ก็อาจจะไม่เหมาะสม เพราะจะกลายเป็นทำให้เราต้องแบกภาระหนักขึ้นได้ ที่สำคัญคือ หากไม่ตรวจสถานะการเงินให้พร้อม โอกาสในการยื่นกู้ขอสินเชื่อก็เป็นไปได้ยากด้วย โดยหลักในการประเมินสถานะทางการเงินง่าย ๆ ก็คือ ภาระหนี้สินที่ต้องจ่ายต่อเดือนไม่ควรเกิน 40% ของเงินเดือน เช่น ถ้าเงินเดือน 30,000 บาท ภาระหนี้สินก็ควรอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 12,000 บาทต่อเดือน ซึ่งหมายถึงหนี้สินทั้งหมดที่ต้องจ่ายไม่ได้เฉพาะแค่ค่าผ่อนบ้านอย่างเดียว เพื่อให้ยังมีสภาพคล่องในการใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่นที่สุด
เตรียมเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินไว้ด้วย

นอกจากค่าผ่อนบ้านแล้ว ในการตัดสินใจซื้อบ้านหรือคอนโดจริง ๆ นั้น ยังมีค่าใช้จ่ายแฝงมาอีกหลายอย่าง เช่น ค่าโอน ค่าจดจำนอง ซึ่งแม้จะได้รับส่วนลดจากมาตรการรัฐ หรือ โปรโมชั่น ก็ยังเป็นเงินก้อนที่ต้องจ่ายอยู่ดี รวมไปถึงค่าเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ นอกเหนือจากที่แถม ค่าขนย้ายของจัดการสิ่งต่าง ๆ ก่อนเข้าสู่บ้านใหม่ ฯลฯ นอกจากนั้นแล้วท่ามกลางสถานการณ์โควิด -19 เราไม่รู้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง เราจะป่วยเมื่อไร บริษัทที่ทำงานจะมั่นคงอยู่ไหม จะมีโอกาสถูกให้ออกจากงาน หรือถูกลดเงินเดือนหรือไม่ ฯลฯ ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น อาจทำให้แผนการใช้เงินของเราสะดุดติดขัด จนไม่สามารถรับภาระค่าผ่อนบ้านได้ไหวจนอาจต้องสูญเสียบ้านไปในที่สุดได้ ดังนั้น นอกจากจะต้องมองสถานะการเงินต้องยื่นกู้แล้ว ยังต้องคิดเผื่ออนาคตในอีก 6 เดือน ถึง 1 ปีด้วยว่า เรามีเงินสำรองฉุกเฉินเพียงพอกับภาระค่าใช้จ่าย และเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้ เพื่อไม่ให้ต้องมามีปัญหาวุ่นวายที่รับมือไม่ได้ภายหลัง
เลือกบ้านที่เหมาะสมตอบโจทย์การใช้ชีวิตและการลงทุนในอนาคต

เมื่อตัดสินใจจะซื้อบ้านหรือคอนโดแล้ว ควรเลือกที่เอื้อประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตมากที่สุด และเลือกในราคาที่สมกับฐานะทางการเงินให้ได้มากที่สุด เพื่อให้เราได้ชีวิตที่ดีอย่างที่ฝัน เช่นควรเลือกทำเลที่ใกล้ออฟฟิศ ใกล้โรงเรียนลูก มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ในขณะเดียวกันก็ควรวางแผนเผื่ออนาคตในการขายต่อหรือปล่อยเช่าไว้ด้วยเลยก็ดี เผื่อว่าหากเกิดเหตุไม่คาดฝันให้เราต้องขายเพราะผ่อนไม่ไหว หรือต้องย้ายที่อยู่ ก็จะได้จัดการได้ง่าย ไม่กลายเป็นชนักติดหลังที่ทำให้กลายเป็นภาระหนักในชีวิต
เปรียบเทียบโปรโมชั่น เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อ

ในช่วงสถานการณ์โควิด มีบ้านหรือคอนโดคุณภาพราคาคุ้มค่าให้เลือกเป็นจำนวนมาก เราไม่ควรด่วนรีบตัดสินใจ แต่ควรใช้เวลาในการไตร่ตรองอย่างรอบคอบเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีและคุ้มค่าที่สุด ในขณะเดียวกันเมื่อได้บ้านหรือคอนโดที่มั่นใจแล้ว ขั้นตอนของการขอสินเชื่อเพื่อกู้ซื้อบ้านนั้น ก็ควรพิจารณาอย่างระมัดระวัง ตรวจสอบเปรียบเทียบดูอัตราดอกเบี้ยของหลาย ๆ ธนาคาร สอบถาม ปรึกษาพูดคุยถึงเงื่อนไขต่าง ๆ ให้ดี แล้วค่อยตัดสินใจเลือกที่ดีที่สุด อาจศึกษาและวางแผนเรื่องรีไฟแนนซ์ไว้ก่อนล่วงหน้าเลยก็ได้ เพื่อให้เรามั่นใจได้ว่าจะสามารถบริหารจัดการการเงินในชีวิตครอบครัวได้อย่างมั่นคงที่สุด

สำหรับการซื้อบ้านหรือคอนโดในช่วงสถานการณ์โควิด -19 นั้น แท้จริงแล้วไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอย่างที่คิด หากเราเตรียมพร้อมในเรื่องสถานะการเงินมาเป็นอย่างดี และเลือกซื้อบ้านคุณภาพในราคาที่เหมาะสม โดยสิ่งสำคัญที่จะทำให้การซื้อบ้านในช่วงนี้ปลอดภัยมากขึ้น ก็คือ วัตถุประสงค์ในการซื้อที่ควรเป็นไปเพื่อการอยู่อาศัยเท่านั้น เพราะจะทำให้เราโฟกัสกับเงินที่เรามีในปัจจุบันและเคลียร์ตัวเองให้พร้อมในง่ายกว่า ต่างจากหากคิดซื้อบ้านหรือคอนโดเพื่อการลงทุนในช่วงนี้ที่มองว่าจะได้ส่วนลดมากทำให้ได้ส่วนต่างกำไรที่มาก ซึ่งเป็นการทำให้เราโฟกัสกับเงินที่จะได้ในอนาคต จนอาจเผลอลืมตรวจสอบการเงินในปัจจุบันตัวเองให้ดี และพาตัวเองตกไปอยู่ในความเสี่ยงได้โดยไม่ทันตั้งตัว

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

Taladnudbaan

KKPAdviceCenter

MoneyGuru