อยากรีไฟแนนซ์บ้านต้องรู้อะไรบ้าง
Loading

อยากรีไฟแนนซ์บ้านต้องรู้อะไรบ้าง

วันที่ : 26 กรกฎาคม 2566
อยากรีไฟแนนซ์บ้านต้องรู้อะไรบ้าง

47_85127_1690371744_84284

ถ้าเลือกได้คนซื้อบ้านซื้อคอนโดทุกคนก็อยากจ่ายซื้อที่อยู่อาศัยในราคาที่ถูกที่สุด อยากที่จะผ่อนชำระค่างวดให้ได้น้อยที่สุดเพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของตัวเองและครอบครัวในแต่ละเดือน โดยหนึ่งในวิธีการที่จะช่วยให้เราได้ในสิ่งที่ต้องการนี้ก็คือการทำ รีไฟแนนซ์ (Refinance) ซึ่งเชื่อว่าหลาย ๆ คนทั้งที่กำลังผ่อนบ้านอยู่และกำลังวางแผนที่จะกู้ซื้อบ้านก็คงพอเคยได้ยินได้คุ้นกับคำว่ารีไฟแนนซ์กันมาบ้างไม่มากก็น้อย แล้วถ้ามีโอกาสก็จะต้องทำให้ได้แน่ ๆ เพราะเป็นประโยชน์กับการผ่อนบ้านของเรา แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะตัดสินใจทำรีไฟแนนซ์บ้านจริง ๆ ก็มีสิ่งที่เราควรรู้เอาไว้ก่อนเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดกับตัวเราเอง ดังต่อไปนี้

 

  1. การรีไฟแนนซ์คืออะไร ทำแล้วได้ประโยชน์อะไรบ้าง

อันดับแรกสุดที่เราควรรู้เกี่ยวกับการทำรีไฟแนนซ์ คือ รู้ให้จริงว่าจริง ๆ แล้วการทำรีไฟแนนซ์คืออะไรแล้วมีประโยชน์ด้านไหนบ้าง เพื่อให้สามารถตัดสินใจทำได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับความต้องการ โดยการทำรีไฟแนนซ์ คือ การขอกู้ซื้อบ้านกับธนาคารใหม่ เพื่อนำไปเคลียร์หนี้บ้านที่ค้างอยู่กับธนาคารเดิมที่เรากำลังผ่อนอยู่ โดยประโยชน์ที่จะได้รับจากการทำรีไฟแนนซ์ ได้แก่ ทำให้ค่างวดผ่อนถูกลงเนื่องจากเลือกกู้กับธนาคารใหม่ที่คิดดอกเบี้ยต่ำกว่า นอกจากนั้นสำหรับบางกรณีก็อาจจะได้ประโยชน์เป็นเงินเหลือจากวงเงินกู้ใหม่ที่ให้มากกว่าวงเงินเดิม ทำให้สามารถนำเงินที่ได้มาไปตกแต่ง ต่อเติมบ้าน หรือต่อยอดประโยชน์อื่น ๆ ได้

 

  1. การทำรีไฟแนนซ์ ไม่ได้ทำได้เลยทันที

โดยส่วนใหญ่แล้วการจะทำรีไฟแนนซ์ได้นั้น จะทำได้หลังจากที่ผ่อนบ้านกับธนาคารเดิมไปแล้ว 3 ปี ในกรณีที่มีการขอทำรีไฟแนนซ์ก่อน 3 ปี ก็จะมีค่าไถ่ถอนที่จะต้องจ่ายให้กับธนาคารเดิมด้วย ซึ่งหากเราต้องการจะทำรีไฟแนนซ์จริง ๆ ก็จำเป็นจะต้องศึกษาเงื่อนไข ข้อกำหนดกับธนาคารเดิมที่ให้กู้ให้ดีก่อน ว่าทำได้เมื่อไร อย่างไร เพื่อให้สามารถวางแผนทำรีไฟแนนซ์บ้านได้อย่างถูกต้อง และได้ประโยชน์สูงสุด

 

  1. การทำรีไฟแนนซ์ มีราคาที่ต้องจ่าย

หลาย ๆ คนคิดว่ารีไฟแนนซ์ฟรี มีแต่ข้อดีไม่มีข้อเสีย ถ้าไม่ได้ขอรีไฟแนนซ์ก่อนกำหนดตามเงื่อนไข ก็ไม่น่าจะมีอะไรเสียเลย แต่ในความเป็นจริงคือไม่ใช่ เพราะการทำรีไฟแนนซ์บ้านหรือคอนโดนั้น ก็มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นค่าจัดการสินเชื่อตามสัญญาใหม่ ค่าธรรมเนียมการจดจำนอง ค่าประเมินทรัพย์สิน ค่าจดจำนอง ค่าอากรแสตมป์ ค่าประกันอัคคีภัย เป็นต้น ซึ่งหากพิจารณาดูแล้วก็จะพบว่า ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ก็เหมือนกับตอนที่เราขอกู้ซื้อบ้านครั้งแรกเลยนั่นเอง ซึ่งก็ถือว่าเมื่อรวม ๆ กันแล้ว ก็ไม่ใช่เป็นเงินน้อย ๆ จึงจำเป็นต้องวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ เพราะถึงแม้เราจะได้งวดผ่อนที่ลดลง แต่ก็ต้องเสียเงินก้อนใหญ่ที่อาจทำให้เกิดปัญหาการเงินได้

 

  1. การทำรีไฟแนนซ์ มีเอกสารที่ต้องเตรียมให้พร้อม

หากเราเข้าใจว่าการทำรีไฟแนนซ์ก็คือการขอกู้ซื้อบ้านกับธนาคารใหม่อีกรอบ ก็จะประเมินได้ว่าจำเป็นจะต้องเตรียมเอกสารและความพร้อมทางการเงินให้ธนาคารพิจารณาเหมือนกับครั้งแรกที่เราขอกู้ซื้อบ้านเลย ซึ่งหากเราละเลยในเรื่องเอกสารและการเตรียมความพร้อมทางด้านการเงิน บางทีการยื่นขอรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่ของเราก็อาจไม่ได้เป็นเรื่องง่ายก็ได้ เพราะมีสิทธิถูกปฏิเสธการอนุมัติ หากธนาคารใหม่พิจารณาแล้วเห็นว่าการเงินของเราไม่ได้อยู่ในสถานะที่พร้อมจะผ่อนค่างวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะอย่าลืมว่า กว่าจะรีไฟแนนซ์ได้นั้นต้องผ่อนธนาคารเดิมก่อนอย่างน้อย 3 ปี หากใน 3 ปีนั้นเรามีหนี้อื่นเพิ่มขึ้น หรือเพิ่งเปลี่ยนงานดูไม่มั่นคง ก็เป็นไปได้ที่ธนาคารใหม่จะไม่อนุมัติสินเชื่อบ้านให้กับเรา

 

                การทำรีไฟแนนซ์บ้านช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการผ่อนชำระค่างวดของผู้ซื้อบ้านได้จริง แต่ก่อนที่จะทำรีไฟแนนซ์นั้นก็จำเป็นจะต้องศึกษาให้เข้าใจ ให้ทราบถึงขั้นตอนและเงื่อนไขในการทำอย่างละเอียด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง เพราะการทำรีไฟแนนซ์ไม่ได้ทำฟรีแต่มีค่าใช้จ่ายอยู่พอสมควร ในขณะเดียวกัน การเลือกธนาคารใหม่ที่จะขอกู้เพื่อมาทำรีไฟแนนซ์นั้นก็สำคัญ ซึ่งเราจำเป็นจะต้องค่อย ๆ เลือกพิจารณาเปรียบเทียบให้ดี โดยที่ไม่ใช่พิจารณาแค่เฉพาะอัตราดอกเบี้ย แต่ควรพิจารณาถึงสิทธิพิเศษอื่น ๆ เงื่อนไขสัญญา ตลอดจนการให้บริการด้วยว่าธนาคารใดเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพื่อให้การทำรีไฟแนนซ์ของเราราบรื่น และได้รับประโยชน์สูงสุดตรงตามเป้าหมาย

 

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

DDProperty

Refinn

KrungSri

Tags :  อยาก รีไฟแนนซ์ บ้าน ต้องรู้