รายงานดัชนีรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ (หมวดที่อยู่อาศัย) ของประเทศไทย และดัชนีความเชื่อมั่นการซื้อที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาสที่ 3 ปี 2567 มีสัญญาณฟื้นตัว
Loading

รายงานดัชนีรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ (หมวดที่อยู่อาศัย) ของประเทศไทย และดัชนีความเชื่อมั่นการซื้อที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาสที่ 3 ปี 2567 มีสัญญาณฟื้นตัว

วันที่ : 7 มกราคม 2568
REIC รายงานดัชนีรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ (หมวดที่อยู่อาศัย) ของประเทศไทย และดัชนีความเชื่อมั่นการซื้อที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาสที่ 3 ปี 2567 แสดงการฟื้นตัวโดยเฉพาะผู้ซื้อบ้าน มีความเชื่อมั่นการซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าแม้จะต่ำกว่าค่ากลาง

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) รายงานผลการจัดทำ “ดัชนีรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ (หมวดที่อยู่อาศัย)” เพื่อติดตามสถานการณ์ภาพรวมของตลาดที่อยู่อาศัยทั้งในด้านอุปสงค์ และอุปทานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 ดัชนีรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ (หมวดที่อยู่อาศัย) อยู่ที่ระดับ 76.8 ลดลง -3.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (YoY) แต่มีทิศทางการฟื้นตัวหรือการติดลบลดลง เมื่อเทียบไตรมาสแรก (-15.1%) และไตรมาสที่สอง (-9.4%) ของปี 2567 สะท้อนถึงการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยภายใต้บริบทเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว เนื่องจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) โดยไตรมาสที่ 3 ขยายตัว 3.0% ซึ่งสูงกว่าการขยายตัวในไตรมาสก่อนหน้า (ไตรมาสที่ 1 ขยายตัว 1.6% และ ไตรมาสที่ 2 ขยายตัว 2.2% ตามลำดับ)

สำหรับดัชนีรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ (หมวดที่อยู่อาศัย) ที่ลดลงในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 นั้น เป็นการลดลง ทั้งในด้านของอุปสงค์และอุปทาน ด้านอุปสงค์ พบว่า มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยลดลง -3.0% เทียบกับปีที่ผ่านมา (YoY) ในด้านอุปทาน ผู้ประกอบการยังคงชะลอแผนการเปิดขายโครงการใหม่ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในเขต ที่ความต้องการชะลอตัว และหันไปพัฒนาโครงการในกลุ่มราคาที่เหมาะสมกับกำลังซื้อ เช่น ที่อยู่อาศัยในระดับราคา ไม่เกิน 7 ล้านบาท

สำหรับทิศทางดัชนีรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ (หมวดที่อยู่อาศัย) ทั้งปี 2567 คาดว่า จะได้รับปัจจัยบวกจาก ภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตามดัชนีฯ ยังติดลบ -6.3% หรือ อยู่ที่ระดับ 82.1 สำหรับกรณีฐาน (Base Case) หากอุปสงค์และอุปทานมีการปรับตัวดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ในกรณีฐาน ดัชนีฯ อาจจะปรับเพิ่มมาอยู่ที่ระดับ 90.9 หรือขยายตัวร้อยละ 3.8 ในกรณี Best Case
สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่