สถานการณ์ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยจังหวัดภาคใต้ ครึ่งแรก ปี 2567
วันที่ : 23 กันยายน 2567
ครึ่งแรกปี 2567 พบมีจำนวนอุปทานพร้อมขายจำนวนประมาณ 22,484 หน่วย มูลค่า 148,276 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.8 และ 92.8
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) รายงานสถานการณ์ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยที่ยังอยู่ระหว่างขายในช่วงครึ่งแรกปี 2567 ของจังหวัดภาคใต้ 4 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดภูเก็ต สงขลา สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า “ในครึ่งแรกปี 2567 พบมีจำนวนอุปทานพร้อมขายจำนวนประมาณ 22,484 หน่วย มูลค่า 148,276 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.8 และ 92.8 ตามลำดับ โดยในจำนวนดังกล่าวแบ่งเป็นโครงการอาคารชุด 12,104 หน่วย มูลค่า 98,918 ล้านบาท และ โครงการบ้านจัดสรร 10,380 หน่วย มูลค่า 49,358 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งเกิดจากที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ 6,191 หน่วย มูลค่า 52,560 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 53.4 และ 277.7 โดยในจำนวนดังกล่าวแบ่งเป็นโครงการอาคารชุด 5,149 หน่วย มูลค่า 45,957 ล้านบาท และ โครงการบ้านจัดสรร 1,042 หน่วย มูลค่า 6,602 ล้านบาท สำหรับที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่ จำนวน 6,943 หน่วย มูลค่า 50,807 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 132.5 และ 327.1 ซึ่งมีอัตราการดูดซับร้อยละ 5.1 โดยในจำนวนที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่ดังกล่าวแบ่งเป็นโครงการอาคารชุด 4,990 หน่วย มูลค่า 41,598 ล้านบาท และ โครงการบ้านจัดสรร 1,953 หน่วย มูลค่า 9,209 ล้านบาท ส่งผลให้มีที่อยู่อาศัยเหลือขาย 15,541 หน่วย มูลค่า 97,469 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4 และ 49.9 ตามลำดับ โดยในจำนวนดังกล่าวแบ่งเป็นโครงการอาคารชุด 7,114 หน่วย มูลค่า 57,320 ล้านบาท และ โครงการบ้านจัดสรร 8,427 หน่วย มูลค่า 40,149 ล้านบาท
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างตลาดที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างขายของ 4 จังหวัดนี้ พบว่า จังหวัดภูเก็ต และ สงขลา เป็นจังหวัดที่มีขนาดตลาดเป็นลำดับ 1 และ 2 ในทุกด้าน ดังจะเห็นได้จากจำนวนและสัดส่วนที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่มีการเสนอขายโดยจังหวัดภูเก็ตมีการเสนอขายถึง 13,218 หน่วย มูลค่า 108,419 ล้านบาท และ จังหวัดสงขลามีจำนวนหน่วย 4,923 หน่วย มูลค่า 18,984 ล้านบาท จากหน่วยที่เสนอขายทั้งหมด ตามลำดับ แต่จังหวัดภูเก็ตมีการเปิดตัวโครงการใหม่มากที่สุด โดยมีการเปิดตัวทั้งบ้านจัดสรรและอาคารชุดรวม 4,791 หน่วย มูลค่า 46,367 ล้านบาท ของหน่วยที่เปิดขายใหม่มากกว่าจังหวัดอื่น ทั้งนี้เป็นหน่วยบ้านจัดสรร 473 หน่วย มูลค่า 2,362 ล้านบาท และอาคารชุด 4,318 หน่วย มูลค่า 44,004 ล้านบาท
สำหรับจังหวัดภูเก็ตมีที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่รวมสูงสุด 5,253 หน่วย มูลค่า 43,907 ล้านบาท โดยมีอัตราการดูดซับที่ร้อยละ 6.6 ต่อเดือน รองลงมาเป็นจังหวัดสงขลา 934 หน่วย มูลค่า 3,288 ล้านบาท โดยมีอัตราการดูดซับที่ร้อยละ 3.2 ต่อเดือน ส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่รวม 496 หน่วย มูลค่า 2,317 ล้านบาท โดยมีอัตราการดูดซับที่ร้อยละ 2.8 ต่อเดือน และ นครศรีธรรมราช ที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่รวม 260 หน่วย มูลค่า 1,294 ล้านบาท โดยมีอัตราการดูดซับที่ร้อยละ 3.2 ต่อเดือน
โดยทำเลที่มีหน่วยขายได้สูงสุดใน 4 จังหวัดภาคใต้ 5 อันดับแรกคือ อันดับ 1 หาดบางเทา-หาดสุรินทร์ จำนวน 2,216 หน่วย มูลค่า 26,055 ล้านบาท อันดับ 2 เทพกระษัตรี-ศรีสุนทร จำนวน 685 หน่วย มูลค่า 4,491 ล้านบาท อันดับ 3 คลองเตย จำนวน 371 หน่วย มูลค่า 908 ล้านบาท อันดับ 4 หาดในยาง-หาดไม้ขาว จำนวน 348 หน่วย มูลค่า 2,363 ล้านบาท และอันดับ 5 ตลาดใหญ่-ตลาดเหนือ จำนวน 343 หน่วย มูลค่า 940 ล้านบาท
ทำเลที่มีที่อยู่อาศัยเหลือขายมากที่สุดใน 4 จังหวัดภาคใต้ คือ อันดับ 1 ทำเลหาดบางเทา-หาดสุรินทร์ จำนวน 2,508 หน่วย มูลค่า 30,783 ล้านบาท อันดับ 2 ทำเลเทพกระษัตรี-ศรีสุนทร จำนวน 1,378 หน่วย มูลค่า 8,004 ล้านบาท อันดับ 3 ทำเลท่าข้าม-ควนหิน จำนวน 830 หน่วย มูลค่า 3,525 ล้านบาท อันดับ 4 ทำเลประดู่-บางชุมโถ จำนวน 824 หน่วย มูลค่า 3,035 ล้านบาท อันดับ 5 ทำเลเกาะแก้ว-รัษฎา จำนวน 818 หน่วย มูลค่า 6,031 ล้านบาท โดยระดับราคาที่มีที่อยู่อาศัยเหลือขายมากที่สุดคือ 3.01-5.00 ล้านบาท มีจำนวนถึง 4,661 หน่วย มูลค่า 20,103 ล้านบาท
ทั้งนี้ REIC คาดการณ์ว่า ปี 2567 จะมีที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่จำนวน 12,695 หน่วย มูลค่า 78,519 ล้านบาท มีจำนวนที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่ 15,727 หน่วย มูลค่า 83,384 ล้านบาท ที่อยู่อาศัยเหลือขาย 13,662 หน่วย มูลค่า 74,564 ล้านบาท...
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างตลาดที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างขายของ 4 จังหวัดนี้ พบว่า จังหวัดภูเก็ต และ สงขลา เป็นจังหวัดที่มีขนาดตลาดเป็นลำดับ 1 และ 2 ในทุกด้าน ดังจะเห็นได้จากจำนวนและสัดส่วนที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่มีการเสนอขายโดยจังหวัดภูเก็ตมีการเสนอขายถึง 13,218 หน่วย มูลค่า 108,419 ล้านบาท และ จังหวัดสงขลามีจำนวนหน่วย 4,923 หน่วย มูลค่า 18,984 ล้านบาท จากหน่วยที่เสนอขายทั้งหมด ตามลำดับ แต่จังหวัดภูเก็ตมีการเปิดตัวโครงการใหม่มากที่สุด โดยมีการเปิดตัวทั้งบ้านจัดสรรและอาคารชุดรวม 4,791 หน่วย มูลค่า 46,367 ล้านบาท ของหน่วยที่เปิดขายใหม่มากกว่าจังหวัดอื่น ทั้งนี้เป็นหน่วยบ้านจัดสรร 473 หน่วย มูลค่า 2,362 ล้านบาท และอาคารชุด 4,318 หน่วย มูลค่า 44,004 ล้านบาท
สำหรับจังหวัดภูเก็ตมีที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่รวมสูงสุด 5,253 หน่วย มูลค่า 43,907 ล้านบาท โดยมีอัตราการดูดซับที่ร้อยละ 6.6 ต่อเดือน รองลงมาเป็นจังหวัดสงขลา 934 หน่วย มูลค่า 3,288 ล้านบาท โดยมีอัตราการดูดซับที่ร้อยละ 3.2 ต่อเดือน ส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่รวม 496 หน่วย มูลค่า 2,317 ล้านบาท โดยมีอัตราการดูดซับที่ร้อยละ 2.8 ต่อเดือน และ นครศรีธรรมราช ที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่รวม 260 หน่วย มูลค่า 1,294 ล้านบาท โดยมีอัตราการดูดซับที่ร้อยละ 3.2 ต่อเดือน
โดยทำเลที่มีหน่วยขายได้สูงสุดใน 4 จังหวัดภาคใต้ 5 อันดับแรกคือ อันดับ 1 หาดบางเทา-หาดสุรินทร์ จำนวน 2,216 หน่วย มูลค่า 26,055 ล้านบาท อันดับ 2 เทพกระษัตรี-ศรีสุนทร จำนวน 685 หน่วย มูลค่า 4,491 ล้านบาท อันดับ 3 คลองเตย จำนวน 371 หน่วย มูลค่า 908 ล้านบาท อันดับ 4 หาดในยาง-หาดไม้ขาว จำนวน 348 หน่วย มูลค่า 2,363 ล้านบาท และอันดับ 5 ตลาดใหญ่-ตลาดเหนือ จำนวน 343 หน่วย มูลค่า 940 ล้านบาท
ทำเลที่มีที่อยู่อาศัยเหลือขายมากที่สุดใน 4 จังหวัดภาคใต้ คือ อันดับ 1 ทำเลหาดบางเทา-หาดสุรินทร์ จำนวน 2,508 หน่วย มูลค่า 30,783 ล้านบาท อันดับ 2 ทำเลเทพกระษัตรี-ศรีสุนทร จำนวน 1,378 หน่วย มูลค่า 8,004 ล้านบาท อันดับ 3 ทำเลท่าข้าม-ควนหิน จำนวน 830 หน่วย มูลค่า 3,525 ล้านบาท อันดับ 4 ทำเลประดู่-บางชุมโถ จำนวน 824 หน่วย มูลค่า 3,035 ล้านบาท อันดับ 5 ทำเลเกาะแก้ว-รัษฎา จำนวน 818 หน่วย มูลค่า 6,031 ล้านบาท โดยระดับราคาที่มีที่อยู่อาศัยเหลือขายมากที่สุดคือ 3.01-5.00 ล้านบาท มีจำนวนถึง 4,661 หน่วย มูลค่า 20,103 ล้านบาท
ทั้งนี้ REIC คาดการณ์ว่า ปี 2567 จะมีที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่จำนวน 12,695 หน่วย มูลค่า 78,519 ล้านบาท มีจำนวนที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่ 15,727 หน่วย มูลค่า 83,384 ล้านบาท ที่อยู่อาศัยเหลือขาย 13,662 หน่วย มูลค่า 74,564 ล้านบาท...
สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่