ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2565 ตลาดที่อยู่อาศัยมือสองมีการประกาศขายลดลงจากสิ้นไตรมาส 2 ปี 2565 และเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนก็ลดลงเช่นกัน แสดงให้เห็นว่าตลาดได้มีการดูดซับบ้านมือสองไปโดยสะท้อนผ่านข้อมูลโอนกรรมสิทธิ์บ้านสองที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส 2 ทั้งหน่วยและมูลค่าร้อยละ 1.9 และ 1.4 ตามลำดับ หากเทียบกับกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน่วยเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.3 แต่มูลค่าลดลงร้อยละ -4.7 ตามลำดับ โดยมีการเร่งโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยก่อนที่จะหมดมาตรการผ่อนปรน LTV จึงทำให้ Supply ของที่อยู่อาศัยมือสองในตลาดลดลงและยังคงได้รับอานิสงส์จากการที่ภาครัฐได้มีการต่ออายุมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และการจดจำนองสำหรับที่อยู่อาศัยที่ไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยเพิ่มเติมการให้สิทธิครอบคลุมมาถึงที่อยู่อาศัยมือสองจากเดิมที่มีผลเฉพาะที่อยู่อาศัยสร้างใหม่ โดยมีระยะเวลาสิ้นสุดมาตรการดังกล่าวไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565
          ตลาดที่อยู่อาศัยมือสองทั่วประเทศ ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2565 ในภาพรวมด้านอุปทานพร้อมขายในตลาดลดลงจากสิ้นไตรมาส 2 (QoQ) ทั้งในด้านจำนวนหน่วยและมูลค่า เมื่อแยกประเภทที่มีการประกาศขายมากที่สุดของไตรมาส 3 ปี 2565 พบว่า บ้านเดี่ยวเป็นประเภทที่มีการประกาศขายมากที่สุด รองลงมาคือห้องชุด และทาวน์เฮ้าส์ ตามลำดับ สำหรับในด้านระดับราคา พบว่า ระดับราคาไม่เกิน 1.00 ล้านบาท เป็นระดับราคาที่มีสัดส่วนประกาศขายมากที่สุด รองลงมาเป็นระดับราคา 3.01 – 5.00 ล้านบาท และเป็นระดับราคา 2.01 – 3.00 ล้านบาท ตามลำดับ โดยมีกรุงเทพมหานครเป็นจังหวัดที่มีการประกาศขายของที่อยู่อาศัยมือสองมากที่สุดร้อยละ 42.6 ของจำนวนหน่วยประกาศขายทั้งหมด และมีมูลค่าร้อยละ 66.4 ของจำนวนมูลค่าประกาศขายทั้งหมด...อ่านต่อฉบับเต็ม .... Download