REIC เผยดัชนีเชื่อมั่นผู้ประกอบการQ3
Loading

REIC เผยดัชนีเชื่อมั่นผู้ประกอบการQ3

วันที่ : 7 พฤศจิกายน 2568
ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการอสังหาฯ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ประจำไตรมาสที่ 3/68 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.5 จุด จากไตรมาสก่อนหน้ามาอยู่ที่ 45.8 และเพิ่มขึ้น 0.7 จุด จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีค่าดัชนี้ 45.1 จุด สะท้อนความเชื่อมั่นผู้ประกอบการยังขาดความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ตลาด คาด 6 เดือนข้างหน้าความเชื่อมั่นอยู่ที่ 54.4 เพิ่มขึ้น 4.1 จุด สะท้อนมุมมองผู้ประกอบการเชิงบวก ที่เชื่อว่าธุรกิจอสังหาฯ จะปรับตัวดีขึ้น
   ปรับตัวเพิ่ม6.5จุดสะท้อนเชื่อมั่นต่ำ

   รายงานข่าวจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่าได้จัดทำบทวิเคราะห์ เรื่อง "ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯปริมณฑล ไตรมาส 3 ปี 2568" พบว่า ค่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ- ปริมณฑลในภาวะปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 45.8 เพิ่มขึ้น 6.5 จุด เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ซึ่งอยู่ที่ระดับ 39.3 และเพิ่มขึ้น 0.7 จุด เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีค่าดัชนีเท่ากับ 45.1 สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการยังขาดความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ธุรกิจในภาวะปัจจุบัน แม้เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน เนื่องจากค่าดัชนียังคงอยู่ต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0

   โดยมีปัจจัยบวกสำคัญจากการต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง รวมถึงมาตรการผ่อนคลายเกณฑ์สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) ชั่วคราว ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯปริมณฑลอีก 6 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 54.4 เพิ่มขึ้น 4.1 จุด จากไตรมาสก่อน ที่มีค่าดัชนีเท่ากับ 50.3 และเพิ่มขึ้น 2.8 จุด เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีค่าดัชนีเท่ากับ 51.6 ซึ่งอยู่สูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 สะท้อนมุมมองเชิงบวกของผู้ประกอบการที่คาดว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะปรับตัวดีขึ้นในช่วง 6 เดือนข้างหน้าจากแรงสนับสนุนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ ทั้ง 2 มาตรการจะสิ้นสุดในวันที่ 30 มิถุนายน 2569 ซึ่งจะเป็นปัจจัยให้ตลาดที่อยู่อาศัยมีการขยายตัว ต่อเนื่องไปจนถึงกลางปี 2569 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

   ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลในภาวะปัจจุบัน (Current Situation Index) ในไตรมาส 3 ปี 2568 พบว่า ผู้ประกอบการฯ มีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นเกือบทุกด้านเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ) โดยด้านผลประกอบการเพิ่มขึ้นมากที่สุด รองลงมาเป็นด้านยอดขาย เพิ่มขึ้น ด้านการเปิดโครงการใหม่ และ/หรือ เฟสใหม่ และด้านการลงทุนเพิ่มขึ้น ในขณะที่ด้านต้นทุนการประกอบการ (ผกผัน) ลดลง และด้านการจ้างงานลดลง

   สำหรับความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันที่จำแนกตามกลุ่มผู้ ประกอบการฯ ในไตรมาส 3 ปี 2568 พบว่า ความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันของผู้ประกอบการกลุ่ม Listed Companies มีค่าดัชนีระดับ 47.4 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน ที่มีค่าดัชนีระดับ 39.4 ความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นเกือบทุกด้าน โดยด้านยอดขายเพิ่มขึ้นมากที่สุด รองลงมาด้านการเปิดโครงการใหม่ และ/หรือ เฟสใหม่ ด้านผลประกอบการ และด้านการลงทุน ขณะที่ความเชื่อมั่นฯ ด้านการจ้างงานและด้านต้นทุนการประกอบการ (ผกผัน) ลดลง สำหรับผู้ประกอบการกลุ่ม Non-listed Companies มีค่าดัชนีที่ระดับ 43.4 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่อยู่ระดับ 39.3 เป็นการเพิ่มขึ้นในด้านผลประกอบการเพิ่มขึ้นมากที่สุดรองลงมาเป็นด้านการจ้างงาน ด้านยอดขาย ด้านการลงทุน และด้านการเปิดโครงการใหม่ และ/หรือ เฟสใหม่ ขณะที่ด้านต้นทุนการประกอบการ (ผกผัน) ลดลง

   ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาพรวมอีก 6 เดือนข้างหน้ามีค่าดัชนีระดับ 54.4 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ที่มีค่าดัชนีระดับ 50.3 โดยเพิ่มขึ้น 4.1 จุด และยังสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 สะท้อนว่าผู้ประกอบการฯ มีความ เชื่อมั่นต่อสถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในอีก 6 เดือนข้างหน้า หากพิจารณาในรายละเอียด ของดัชนีความเชื่อมั่นฯ แต่ละด้าน พบว่า ผู้ประกอบการฯ มีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นเกือบทุกด้านเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยด้านยอดขายเพิ่มขึ้นมากที่สุด รองลงมาเป็นด้านการเปิดตัวโครงการใหม่ และ/หรือ เฟสใหม่ ด้านผลประกอบการ ด้านการจ้างงาน และด้านการลงทุน ขณะที่ด้านต้นทุนการประกอบการ (ผกผัน) มีความเชื่อมั่นลดลง

   หากจำแนกเป็นกลุ่มผู้ประกอบการฯ พบว่า ผู้ประกอบการกลุ่ม Listed Companies มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้าเท่ากับ 55.5 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่มีค่าดัชนีระดับ 54.6 และยังสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 โดยความเชื่อมั่นฯ เพิ่มขึ้นเกือบทุกด้าน โดยด้านการเปิดตัวโครงการใหม่ และ/หรือ เฟสใหม่เพิ่มขึ้นมากที่สุด รองลงมาเป็นด้านผลประกอบการ ด้านต้นทุนการประกอบการ (ผกผัน) และด้านยอดขาย ขณะที่ด้านการลงทุน ด้านการจ้างงานลดลง สำหรับผู้ประกอบการฯ กลุ่ม Nonlisted Companies มีค่าดัชนีเท่ากับ 52.8 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน ที่มีค่าดัชนีระดับ 43.8 โดยมีความเชื่อมั่นฯ เพิ่มขึ้นเกือบทุกด้าน โดยด้านยอดขายเพิ่มขึ้นมากที่สุด รองลงมาเป็นด้านการลงทุน ด้านการจ้างงาน ด้านผลประกอบการ และด้านการเปิดตัวโครงการใหม่ และ/หรือ เฟสใหม่ ขณะที่ความเชื่อมั่นฯ ด้านต้นทุนการประกอบการ (ผกผัน) ลดลง
ข่าว reic จากสื่อสิ่งพิมพ์ อื่นๆ