นายวิทูร สุริยวนากุล กรรมการ บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL เปิดเผยกับ "ทันหุ้น" ว่า ประเมินการที่ ครม. ไฟเขียวแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 115,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 85,000 ล้านบาท เป็นด้านโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งบริษัทเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม ทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบดีขึ้น รวมถึงผู้ประกอบการค้าวัสดุก่อสร้างก็จะได้รับประโยชน์ด้วย

    ในส่วนของบริษัทในฐานะผู้ค้าปลีกวัสดุก่อสร้างเชื่อว่าผลดีที่จะเกิดต่อยอดขายจากนี้จะเป็นอานิสงส์ทางอ้อมเชิงกำลังซื้อมากกว่าผลดีทางตรง โดยจากการพิจารณาข้อมูลรายละเอียดการใช้งบประมาณที่จะออกมาในขณะนี้ ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่โครงการก่อสร้างถนน และการทำอ่างเก็บน้ำ แต่สินค้าที่บริษัทจำหน่ายจะเกี่ยวข้องกับงานด้านซ่อมแซมอาคารมากกว่า

    อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดหวังทั้งยอดขายเฉลี่ยต่อสาขา และยอดขายโดยรวมในครึ่งหลังปี 2568 จะเพิ่มขึ้นชัดเจนเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก และบริษัทยังคงแผนการขยายสาขาต่อเนื่อง พร้อมกับดำเนินกลยุทธ์เน้นสินค้าที่จำเป็นมากขึ้น ทั้งนี้ตั้งงบลงทุนปีนี้ราว 2,000 ล้านบาท ใช้ในการขยายสาขา และรีโนเวต โดยตั้งเป้ามีสาขารวมทั้งสิ้น 97 สาขา จากสิ้นปี 2567 ที่ผ่านมามีสาขารวมทั้งสิ้น 90 สาขา ส่วนภาพรวมทั้งปีนี้ยอมรับว่ายังท้าทายและบริษัทจะพยายามสร้างการเติบโตให้มากกว่าปีก่อน

    GLOBAL-DOHOME เด่น

    ด้าน นางสาวยุวนีย์ พรหมาภรณ์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หุ้นค้าวัสดุก่อสร้างน่าจะได้รับผลดีจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพียงแต่ยังจำเป็นต้องรอดูความชัดเจนว่าเม็ดเงินจะเข้าสู่ระบบได้จริงเวลาใดและจำนวนเงินที่ลงมาเป็นเท่าไร ในเบื้องต้นหากผลักดันได้ทันไตรมาส 4/2568 นี้ ก็น่าจะส่งผลดีต่อยอดขายต่อสาขาของผู้ประกอบการต่างๆ อย่างชัดเจน หากเรียงลำดับหุ้นไทยในกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่น่าสนใจได้แก่ DOHOME, GLOBAL และอาจรวมถึง HMPRO

    สำหรับภาพรวมหุ้นผู้ประกอบการวัสดุก่อสร้างน่าสนใจจากระดับราคาหุ้นที่ปรับลงมามากในช่วงที่ผ่านมา ส่วนการจำแนกรายตัว DOHOME กับ GLOBAL ทั้งคู่ขายสินค้าโครงสร้างที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง จึงน่าจะได้รับจากผลดีการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้มากกว่า HMPRO ซึ่งได้รับประโยชน์น้อยเพราะไม่ได้ขายสินค้าโครงสร้างหลัก

    โดย DOHOME มีสัดส่วนการขายให้ผู้รับเหมาและนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายย่อยราวครึ่งหนึ่ง และแม้ว่าจะเพิ่งมีประเด็นลบเฉพาะตัวจากการตรวจพบเหล็กที่ไม่ได้มาตรฐานแต่มูลค่าเพียง 2.2 ล้านบาท ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับยอดขายรวม และมีผล กระทบเพียงเล็กน้อยต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และคาดว่าในที่สุดสถานการณ์จะกลับสู่ปกติ แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายพื้นฐาน 4.50 บาท

    ด้าน GLOBAL มีผู้รับเหมาเป็นลูกค้าประมาณ 30% แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมายพื้นฐาน 5 บาท ขณะที่ HMPRO ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนเมืองที่ซื้อสินค้าเพื่อตกแต่งห้อง มีสัดส่วนรายได้จาก Megahome ซึ่งมีสินค้าโครงสร้างเพียงประมาณ 20% และสินค้าเหล็กมีไม่เกิน 5% ของยอดขายรวมของ HMPRO แนะนำ "ซื้อ" ให้ราคาเป้าหมาย 11.20 บาท

    รอเบิกจ่ายงบเข้าระบบ

    นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยว่า ผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับกลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้างหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะโยงไปถึงกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างก่อน รวมถึงพื่นที่พิกัดจริงของแต่ละโครงการที่งบประมาณจะไปถึง

    ขณะที่ผู้รับเหมาแต่ละรายย่อมต้องมีแหล่งซื้อวัสดุในแต่ละพื้นที่อยู่แล้ว และย่อมเป็นไปได้ที่งานจะไปยังผู้รับเหมารายที่ไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ด้วย ซึ่งหลังจากนั้นผู้รับเหมาต่างๆ จะเป็นผู้ที่ตัดสินใจเลือกใช้บริการหรือสั่งซื้อวัสดุจากเจ้าใด

    ทั้งนี้ร้านค้าเครือ DOHOME และ GLOBAL ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในภาคตะวันตกและภาคตะวันออก หากงบประมาณไม่ได้ลงพื้นที่เหล่านั้นมากนัก ก็อาจจะไม่ได้รับผลประโยชน์มากก็ได้