นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช. การคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ กระทรวงการคลังอยู่ในกระบวน การในการเร่งผลักดันมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเข้ามาดูแลในช่วงที่อุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจากความเชื่อมั่นจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยโอบอุ้มภาคอสังหาริมทรัพย์ในภาวะที่สูญเสียความเชื่อมั่นได้เป็นอย่างดี และเชื่อว่าจะมีข่าวดีออกมาเร็วๆ นี้

  สำหรับมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์มี 2 มาตรการที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพสูง ได้แก่ มาตรการ LTV และมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง โดยจากข้อมูลพบว่า หากมีการใช้มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ เพียง 1 มาตรการ จะมีผลต่อซัพพลายในอุตสาหกรรมที่ 16.8% ถ้าหากไม่มีมาตร การจะมีผล -0.8% และถ้าใช้ 2 มาตรการจะมีผล 22.6% ขณะที่ในภาคดีมานด์ โดยเฉพาะในเรื่องหน่วยของการโอน หากใช้ 1 มาตรการ มีผล 1.6% ถ้าไม่มีมาตรการเลย -3.5% แต่ถ้ามีการใช้ 2 มาตรการพร้อมกันจะมีผล 9.7% ดังนั้นตรงนี้เป็นเครื่องสะท้อนว่า 2 มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์หากมาพร้อมกันจะเป็นปัจจัยกระตุ้นที่สำคัญ

  นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ยอมรับหลังเกิดแผ่นเหตุแผ่นดินไหวมีลูกค้าชะลอการตัดสินใจโอนคอนโดมิเนียมไปบ้าง แต่เป็นแค่ช่วงระยะสั้น และเชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหาเรื่องการทิ้งใบจองหรือยกเลิกสัญญาอย่างที่กังวลแต่อย่างใด โดยประเมินว่าจะมีผล กระทบในระยะสั้น ไม่น่าจะเกิน 3 เดือน หลังจากนั้นน่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งในไตรมาส 1/68 ธอส.ได้ปล่อยกู้ไปแล้ว 46,000 ล้านบาท เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 12,000 ล้านบาท