การเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ EEC (Eastern Economic Corridor) ได้กลายเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่หลายคนต้องจับตามองในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 นี้ ข้อมูลล่าสุดจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่าราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนาในพื้นที่ EEC ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีการขยายตัวสูงสุดถึง 26.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน และ 9.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ทำให้พื้นที่นี้กลายเป็น "ศูนย์กลางการเติบโตใหม่" ที่ดึงดูดทั้งนักลงทุนไทยและต่างชาติอย่างไม่หยุดหย่อน

   ทำเลไหนที่ราคาที่ดินพุ่งสูงสุด!

   ถ้าพูดถึงการเติบโตของราคาที่ดินใน EEC ที่มีการขยายตัวสูงสุด 5 อันดับแรก ภาพที่เราจะเห็นคือทำเลที่ได้รับผลกระทบจากทั้งการพัฒนาเศรษฐกิจ การขยายตัวของอุตสาหกรรม และความเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว

   อันดับ 1 แกลง จังหวัดระยอง

   ราคาที่ดินในอำเภอแกลงพุ่งขึ้นถึง 92.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยสาเหตุหลักเกิดจากการที่อำเภอนี้กลายเป็นจุดหมายของการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย รองรับทั้งประชากรที่เพิ่มขึ้นจากการทำงานในนิคมอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในพื้นที่

   อันดับ 2 บางละมุง จังหวัดชลบุรี

   ที่ดินในบางละมุงซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองพัทยา แหล่งท่องเที่ยวหลักของภาคตะวันออก ก็เห็นราคาที่ดินเพิ่มขึ้นถึง 50.6% ที่ดินในทำเลนี้ส่วนใหญ่จะนำไปพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมและโรงแรม ซึ่งรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองพัทยาอย่างต่อเนื่อง

   อันดับ 3 ศรีราชา จังหวัดชลบุรี

   ในขณะที่ศรีราชา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแหล่งเศรษฐกิจและแหล่งอุตสาหกรรมสำคัญของจังหวัดชลบุรี ราคาที่ดินก็เพิ่มขึ้น 47.6% โดยที่ดินในพื้นที่นี้ส่วนใหญ่จะนำไปพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับคนไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่เข้ามาทำงานในนิคมอุตสาหกรรมที่นี่ รวมถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในพื้นที่

   อันดับ 4 แปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา

   สำหรับอำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา ราคาที่ดินพุ่งขึ้น 27.5% ทำให้มันกลายเป็นอีกหนึ่งทำเลที่น่าจับตามอง เนื่องจากมีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมในพื้นที่

   อันดับ 5 พนัสนิคม จังหวัดชลบุรี

   แม้จะมีการเพิ่มขึ้นของราคาที่ดินเพียง 1.8% แต่พนัสนิคมก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีความน่าสนใจในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากยังคงมีการเติบโตทางเศรษฐกิจจากอุตสาหกรรมที่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

   มีปัจจัยสำคัญหลายประการที่ทำให้การเติบโตของราคาที่ดินใน EEC เป็นไปอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นคือการขยายตัวของอุตสาหกรรมและการลงทุนจากนักลงทุนจีน ที่ย้ายฐานการผลิตมายังพื้นที่นี้ ซึ่งส่งผลให้ความต้องการที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการต่าง ๆ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังมีการสนับสนุนจากภาครัฐผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น ศูนย์บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จ (Government All-Service Center) ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุน

   จากการเติบโตของราคาที่ดินใน EEC นี้ สามารถเห็นได้ชัดว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีในการลงทุนทั้งในภาคอสังหาริมทรัพย์และการพัฒนาโครงการต่าง ๆ โดยเฉพาะในทำเลที่มีการขยายตัวของอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว แนวโน้มราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้นในอนาคตมีความเป็นไปได้สูงจากปัจจัยหลาย ๆ ด้านที่กำลังก่อตัวขึ้นในพื้นที่นี้ ทำให้ EEC กลายเป็น “ทำเลทอง” ที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในระยะยาว