แผ่นดินไหวกระทบหุ้นไทยช่วงสั้น กลุ่มก่อสร้างรับผลดี-คอนโดกระทบหนัก
Loading

แผ่นดินไหวกระทบหุ้นไทยช่วงสั้น กลุ่มก่อสร้างรับผลดี-คอนโดกระทบหนัก

วันที่ : 31 มีนาคม 2568
โบรกเกอร์ ประเมินเหตุการณ์แผ่นดินไหว ตลาดหุ้นไทยรับผลกระทบเพียงระยะสั้น เชื่อตลาดหุ้นไทยยังแกร่ง มองหุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้างรับผลดี ส่วนการแพทย์และสื่อสารรับผลจำกัด ส่วนอสังหาฯ เน้นคอนโดฯ รับผลหนักสุด เชื่อตลาดหุ้นไทยยังแกร่ง
   นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานหลักทรัพย์ บล. บัวหลวง จำกัด (มหาชน) มองผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยหลังเกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงครั้งนี้ว่าshort-term อาจมีแรงขายเชิงเทคนิคเคิลคือ ออเดอร์ขายที่ค้างจากวันศุกร์ไม่หมด ซึ่งอาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวโดยตรง เชิงพื้นฐาน หุ้น ITD ซึ่งเกี่ยวข้องกับ J.Venture กับบ.จีน ที่ก่อสร้าง สตง.ถล่ม ต้องดูว่ามีประกันคุ้มครองมากน้อยเท่าไร กลุ่มได้ประโยชน์ชั่วคราว ได้แก่ Hmpro, Global ,SCG จากการซ่อมแซมในเชิง Sentiment แต่คิดว่าไม่ได้กระทบจริงด้านพื้นฐาน เพราะไม่ได้กระทบต่ออาคาร บ้านเรือนมากมาย แต่อาจได้ประโยชน์ทางอ้อมจากการก่อสร้างในพม่า ขณะที่บริษัทประกัน น่าจะถูกกระทบด้านลบจากการเคลม แต่ไม่ได้มาก มายนัก ยกเว้น อาคาร สตง. ซึ่งต้องขอดูรายละเอียดบริษัทประกันใดเกี่ยวข้อง

   บล. พาย ประเมินศึกษาผลกระทบภัยธรรมชาติ ซึ่งในไทยผ่านเหตุการณ์ สึนามิช่วงปลายปี 2004 พบว่าหลังจากเปิดทำการตลาดหุ้นไทยปรับลง 2.2% และ ใช้ระยะเวลาเพียง 4 วันทำการกลับมา ณ ระดับก่อนเกิดสึนามิ และช่วงเวลา ดังกล่าวพบว่าหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกคือกลุ่ม Defensive (BDMS) กลุ่มก่อสร้าง (SCC) กลุ่มส่งออก (TU) แต่หุ้นที่ Underperform คือโรงแรม (MINT ลดลง 5%) กลุ่มธนาคาร (BBL ลดลง 3.7% KBANK ลดลง 3%)

   ทั้งนี้ กรณีศึกษาของญี่ปุ่นพบว่าช่วงปี 2011 ญี่ปุ่นเกิดแผ่นดินไหวขนาด 9 ริกเตอร์ ซึ่งครั้งนั้นตึกถล่มราว 1.2 แสนตึกคิดค่าความเสียหายรวม 9.8 แสนหลังคาเรือนสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจราว 3.5 แสนล้านบาท สำหรับผลกระทบต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่นพบว่าใน 1 สัปดาห์ปรับลง 16% ซึ่งกลุ่มที่รับผลกระทบอย่าง อสังหาฯ, ค้าปลีก และสายการบิน ขณะที่กลุ่มก่อสร้าง Outperform ใช้เวลากว่า 21 เดือนในการ กลับมาจุดเดิมก่อนเกิดเหตุการณ์ และรอบที่ 2 ต้นปี 2024 เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวเขย่าจังหวัดอิชิคาระวะทำให้ถนนหลายสายเกิดรอยแตกร้าว อาคารบ้านเรือนถล่ม ส่งผลให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับลงราว 2.6% และใช้ระยะเวลาเพียง 2 วันทำการกลับขึ้นไปก่อนระดับเดิม โดยสรุปก็คือผลกระทบต่อตลาดหุ้นจะมากหรือน้อยขึ้นกับความแรงต่อเศรษฐกิจ

   ขณะที่ตลาดหุ้นไทยผลกระทบจากแผ่นดินไหวยังค่อนข้างจำกัดต่ออาคารสิ่งปลูก เพราะอาคารสิ่งปลูกสร้างในกรุงเทพฯ พังทลายลงไม่มาก อาจมีอย่างสำนักการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ส่วนที่เหลือยังค่อนข้าง ปกติ แต่คอนโดต่างๆ เผชิญกับปัญหารอยแตกร้าวและเสียความเชื่อมั่นจากผู้อาศัย ซึ่ง จะกระทบกับอุปสงค์ในอนาคต โดยเฉพาะ อสังหาฯ ที่มียอดขายจากคอนโดฯเป็นหลักอย่าง (ORI) จากข้อมูลพบว่ามูลค่าเศรษฐกิจ ไทยอยู่ที่ 18 ล้านล้านบาท โดยที่ตลาดอสังหาฯ มูลค่าอยู่ที่ 1.1 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 6% ของ GDP หากพิจารณาในเบื้องต้นก็อาจสร้าง Downside ต่อเศรษฐกิจไม่มากนัก

   บล.พาย มองกลุ่มท่องเที่ยวก็มองเป็นจิตวิทยาเชิงลบและมีผลต่อเศรษฐกิจไทย เพราะเดิมทีความน่าสนใจของประเทศ ไทยถูกลดเสน่ห์ลงไปบ้างสะท้อนผ่านการมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่น้อยลง YTD ขยายตัวเพียง 3% จากปีก่อน 15% และนักท่องเที่ยวจีนกลับเดินทางไปญี่ปุ่นมากกว่าก่อนโควิด-19 สวนทางกับไทยที่ยังต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด-19 และการเกิดแผ่นดินไหว อาจทำให้นักท่องเที่ยวบางส่วนชะลอการมา ท่องเที่ยวไทย อย่างไรก็ตาม หากเหตุการณ์แผ่นดินไหวมิได้เกิดขึ้นอีก เชื่อว่าจะกระทบกับการท่องเที่ยวระยะสั้น

   ดังนั้น การลงทุนกลุ่มได้ประโยชน์อย่าง ค้าปลีกที่เกี่ยวข้องกับซ่อมแซมบ้าน (HMPRO, GLOBAL, DOHOME) ปูน (SCCC) รวมไปถึงกลุ่มที่ผลกระทบจำกัดอย่างโรงพยาบาล (BDMS) สื่อสาร (ADVANC, TRUE) และควรระมัดระวังในหุ้นอสังหา เพราะรับผลกระทบหนักสุด

   ขณะที่ล่าสุดกระทรวงการคลังได้เตรียมออกมาตรการมารองรับและยืนยันว่าเศรษฐกิจไทยยังมีความแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพ