นายคาร์ลอส มาร์ติเนซ ผู้อำนวยการวิจัยและที่ปรึกษาตลาดอสังหาริมทรัพย์ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดโรงแรมในปี 2568 ยังขยายตัวมีปัจจัยสนับสนุนจากการท่องเที่ยว คาดว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา 40 ล้านคน การขยายระยะเวลายกเว้นวีซ่า โดยตลาดกรุงเทพฯ แม้อัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อวัน (ADR) เริ่มชะลอตัวคาดว่าทรงตัวอยู่ที่ 4,250-4,450 บาท โดยโรงแรมหรูมีแนวโน้มเติบโตอัตราค่าห้องพักเพิ่มขึ้น 43% จากปี 2562 ขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อห้องพักทั้งหมดได้แรงหนุนอัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยว ต่างชาติ โดยตลาดจีนยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ แม้ว่าจำนวนผู้เดินทางจากจีนยังคงต่ำกว่าระดับก่อนโควิดถึง 40% รวมถึงมีตลาด เกิดใหม่ เช่น อินเดีย ตะวันออกกลาง กำลังมีบทบาทที่สำคัญมากขึ้นในภาคการท่องเที่ยวของกรุงเทพฯ คาดว่าอัตราการเข้าพักจะทรงตัวอยู่ที่ 80% และโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยายังได้รับความนิยม และในช่วงกลางปีนี้จะมีห้องพักใหม่เกือบ 4,000 ห้องเข้าสู่ตลาด คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 4.7% ของจำนวนห้องพักทั้งหมด

   นายคาร์ลอสกล่าวว่า ส่วนตลาดโรงแรมภูเก็ตในปีนี้การฟ้นตัวจะเร่งตัวขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากขยายเส้นทางการบินระหว่างประเทศ ยกเว้นวีซ่าตลาดหลักจีน รัสเซีย อินเดีย การเปิดเส้นทาง บินใหม่ จะช่วยกระตุ้นการเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เสริมสร้างสถานะของภูเก็ตในฐานะจุดหมายปลายทางระดับโลกและภูเก็ตกำลังเปลี่ยนภาพลักษณ์จากจุดหมายปลายทางหรูหราแบบดั้งเดิมไปสู่ตลาดไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมที่มีความหลากหลายมากขึ้น โดยพื้นที่บางเทาและกมลากำลังเป็นศูนย์กลางการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ คาดว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราค่าห้องพักจะชะลอตัวลงและรายได้ต่อห้องพักที่เปิดบริการมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นมากกว่าการปรับราคาห้องพักสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

   "หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงสำคัญตลาดโรงแรมภูเก็ต คือ ยกเลิกข้อจำกัดความสูงอาคารที่ 80 เมตร จะเปิดให้เกิดการพัฒนาโรงแรมและที่อยู่อาศัยลักชัวรี่ในช่วง 2 ปีข้างหน้า คาดว่าจะมีห้องพักใหม่มากกว่า 4,100 ห้องเข้าสู่ตลาดในกลุ่มโรงแรมลักชัวรี่และอัพเปอร์อัพสเกล สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่แข็งแกร่งต่อศักยภาพระยะยาวของภูเก็ต มีแบรนด์โรงแรมระดับโลกและผู้ประกอบการไทย กำลังเข้ามาเสริมศักยภาพด้านการให้บริการระดับไฮเอนด์และการลงทุนเพิ่มเติมในภูเก็ต" นายคาร์ลอสกล่าว